Product Manager

👋🏼 ศูนย์กลาง

อย่าคิดแค่ว่างานของฉันคือคิดฟีเจอร์และขายของ มันมีอะไรซ่อนอยู่มากกว่านั้นอีกเยอะ การทำตัวเป็นกาวประสานให้กับคนรอบตัวคือจุดเริ่มต้นที่ดีมาก 💄

2️⃣ สองด่านสำคัญ

เราต้องผิดพลาดกี่ครั้ง เราต้องล้มเหลวกี่รอบ …​ ไม่ว่าจะกี่ครั้งและกี่รอบ เรายังฝ่าไปไม่พ้นด่านหนึ่งเลย 🥲

🎉 เพลสเช่อร์ พ้อยท์

ลดความเครียด, เพิ่มความมั่นใจ, รู้สึกปลอดภัยขึ้น, เป็นที่ยอมรับในสังคม, ยกระดับสถานะ นี่คือเพลสเช่อร์ พ้อยท์ และมันขายได้เหมือนกัน 🙌🏼

👍🏽 ที่สุด

บางทีมันคุ้มค่ากว่าที่จะเลือกแค่หนึ่งฟีเจอร์ที่ดีมากแทนที่จะเป็นห้าฟีเจอร์ธรรมดาๆ 👆🏼

👁 จุดบอด

ในฐานะคนผลิตและคนขาย บางครั้งเราก็ต้องรู้ว่าจุดบอดของเราคืออะไร และเราก็ควรจะรู้เช่นกันว่าเมื่อไรที่ควรหยุดและยอมรับในเรื่องเหล่านั้น 🙆🏼‍♂️

🫶🏼 งานเสร็จ?

อย่างขวนขวยหาคำว่าเสร็จเพราะถ้าคำนั้นจะมาถึงจริงๆมันหมายถึงซอฟต์แวร์เราหมดอายุแล้วหรือเรายอมแพ้ที่จะทำให้มันดีกว่าที่เป็นอยู่แล้วนั่นเอง 🥲

👈🏼 คิดย้อนกลับ

“ลืมเรื่องสเปคไปก่อน ตรงนี้ผมไม่มีวาระส่วนตัวอะไรครับ ถ้าเราแน่ใจว่าสิ่งนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ทำงานง่ายขึ้น ผมก็พร้อมจะทำ” - ผมลงท้าย 💁🏼‍♂️

🏅 มากเกิน ดีเกิน

ถ้าวันไหนเรารู้สึกว่าทำไมเขาไม่ซื้อวะ ของดีขนาดนี้ … ก็นั่นแหละ มันอาจจะดีเกินไปในเวลานี้กับลูกค้ากลุ่มนี้ก็ได้นะ 🤓

🐘 ใหญ่เกินไป

ทำเกินความคาดหวังสามารถเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันได้ดี แต่มันจะกลายเป็นจุดอ่อนถ้าเราพยายามทำมันมากเกินไป 🖐🏼

🖐🏼 มันยังไม่พร้อม

แต่ถ้าไม่ส่งมอบก็ไม่มีงานไหนมีคุณค่า มันอาจจะเป็นผลงานมาสเตอร์พีซของเรา (ในความคิดเรา) แต่ถ้าคนอื่นไม่มีโอกาสได้เห็น …? 👿