ความเครียดเกิดจาก … การอยากทำอะไรสองอย่างที่ขัดกันในเวลาเดียวกัน เช่น
- ฉันอยากทำงานนี้ให้เสร็จ (หน้าที่และเงินเดือน) แต่ฉันไม่อยากทำงานนี้ให้เสร็จตอนนี้เพราะผมอยากไปรับลูกที่โรงเรียนมากกว่า (หน้าที่และความสุข)
- หนูอยากเข้าเรียนวิชานี้ (หน้าที่และอนาคต) แต่หนูไม่อยากนั่งอยู่ในห้องเรียนเพราะหนูอยากไปฝึกแบดมินตันมากกว่า (ความเชื่อและความสุข)
- ผมอยากเข้าประชุมนี้ (หน้าที่และความรับผิดชอบ) แต่ผมไม่อยากใช้เวลาในห้องประชุมนี้ต่อไปอีกสักวินาทีเดียวเพราะผมอยากนั่งทำงานเงียบๆคนเดียว (ความก้าวหน้าและความรู้สึกดีต่อตัวเอง)
- ฉันอยากสร้างรายได้มากขึ้น (หน้าที่และภาระต่อทีมงาน) แต่ฉันไม่อยากทำงานกับลูกค้ารายนี้อีกต่อไปแล้วเพราะฉันอยากเอาเวลาไปช่วยลูกค้ารายนั้นมากกว่า (เป้าหมายและจิตวิญญาณ)
เมื่อเราต้องทำหนึ่งอย่างแต่ในใจอยากทำอีกอย่างที่ขัดกัน เมื่อเรารู้สึกว่าไม่ได้มีความสามารถในการควบคุมความเป็นไปของชีวิต … เมื่อเราขาดอิสระ นั่นคือที่มาของความเครียด ในสังคมปัจจุบัน … น้อยคนนักที่จะมีอิสระขนาดที่ไม่ต้องทำอะไรที่ขัดกับความรู้สึกเลย
ในอีกฝากหนึ่ง มีมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่ดำเนินชีวิตอยู่บนบริบทที่ไม่มีคำว่า “แต่” กิจกรรมส่วนใหญ่ของพวกเขาสัมพันธ์กับความต้องการภายใน
- ผมอยากชงกาแฟและผมอยากให้บริการลูกค้า
- หนูอยากเรียนหนังสือและหนูอยากเรียนให้ดีที่สุด
- หนูอยากเข้าประชุมนี้และหนูอยากเสนอแนวคิดใหม่ๆให้ทีมได้ฟัง
- ฉันอยากสร้างโปรดักท์ที่ดีและฉันเต็มใจใช้เวลาในการออกแบบหน้าจอนี้มากขึ้นอีกนิด
พวกเขาสร้างอิสระได้ด้วยตัวเอง … เคล็ดลับคือสิ่งนี้
ไม่ใช่ทำในสิ่งที่รัก (เพราะน้อยคนนักที่จะได้อภิสิทธิ์ตรงนี้) แต่รักในสิ่งที่ทำ (พยายามทุกวันที่จะลบคำว่า “แต่” ออกไปจากชีวิตการทำงาน)
ลด “แต่” ให้น้อยลง ชีวิตจะมีความสุขขึ้น 😐