บางเรื่องก็มีมาตรวัดชัดเจนถึงผลตอบแทน บางเรื่องก็ตีความออกมาได้ชัดเจนว่ากำไรหรือขาดทุน การตัดสินใจเลือกทำหรือไม่ทำเลือกบุกหรือตั้งรับขึ้นอยู่กับ “ความคุ้มค่า” ที่เป็นตัวเลข
ซื้อหุ้น ซื้อที่ดิน ซื้ออสังหาริมทรัพย์ เปลี่ยนรถคันใหม่ จ้างพนักงานใหม่ ออกโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 3 เลือกทิ้งของเดิมเพื่อทำโปรดักท์ใหม่ ซื้อแมคบุ๊คโปร ยกเลิกสัญญากับพาร์ทเนอร์ … โอกาสคือกำไรหรือขาดทุนเราบอกได้
บางเรื่องก็ไม่มีมาตรวัดที่ชัดเจนตามมาตรฐาน บางเรื่องก็ไม่สามารถตีความออกมาได้ชัดเจนว่ากำไรหรือขาดทุน การตัดสินใจเลือกทำหรือไม่ทำเลือกบุกหรือตั้งรับขึ้นอยู่กับ “ความรู้สึก” ล้วนๆ
การใส่ใจในเพื่อนมนุษย์ การลงทุนกับการออกแบบที่ดี การให้ความรู้และแบ่งปันประสบการณ์ต่อสังคม การกล้าเสี่ยงที่จะคิดและพัฒนานวัตกรรมใหม่ การยึดมั่นในคุณภาพ การทำธุรกิจอย่างซื่อสัตย์ การทุ่มเทสร้างแบรนด์อย่างไม่ลดละ และอื่นๆอีกมาก
มันเป็นเรื่องระยะยาวที่ไม่มีมาตรวัดชัดเจน มันเป็นเรื่องที่กำหนดเป๊ะๆไม่ได้ว่าเราจะเห็นผลตอบแทนที่คุ้มค่าเมื่อไร … แต่เรารู้อยู่แก่ใจว่า “มันใช่” เราหลอกตัวเองไม่ได้ว่า “มันคือเรื่องที่ถูกต้องที่จะทำ” เราบอกตัวเองได้ว่า “กำไรจากสิ่งเหล่านี้จะกลับมาหาเราสักวันหนึ่งในอนาคต”
เพราะไม่ใช่ทุกเรื่องจะหาผลตอบแทนที่เป็นตัวเลขได้เสมอไป เพราะหลายเรื่องมันวัดกันที่ใจไม่ใช่กำไร … ถ้าเรื่องไหนที่เรารู้สึกว่ามันถูกต้องและสมควรทำก็จงทำไป อย่าได้ไปยึดติดกับข้อมูลการวิเคราะห์การคำนวณการหักลบกลบหนี้ให้มันมากนัก
การวัดความคุ้มค่าของการทำบางอย่างนั้นก็ยากเหมือนการวัดความคุ้มค่าของคุณแม่ … ใครบ้างที่คิดว่าแม่ไม่ใช่เรื่องคุ้มค่า?