หลายครั้งตำแหน่งหน้าที่ที่สูงกว่าคนอื่นก็สร้างความลำบากให้เรามาก
ถ้าแผนในใจคือการกระจายอำนาจในการตัดสินใจลงไปสู่ทีมงานให้มากที่สุด
ถ้าสิ่งที่เราอยากเห็นคือการก้าวขึ้นมารับผิดชอบงานที่ใหญ่ขึ้นของคนในทีม
ถ้าความจริงที่อยากให้เป็นคือการที่เราเป็นคนเบื้องหลังมากกว่าเบื้องหน้า
เพราะเมื่อเขารู้แล้วว่าเราคือผู้นำหรือเราคือหัวหน้าทีม … ทุกๆอย่างก็จะวิ่งมาหาเราอย่างช่วยไม่ได้
แม้แต่ทีมงานเองก็จะยังมีความเกรงใจในความคิดของเรา ยังคาดหวังว่าเราต้องตอบคำถามหรือออกความคิดเห็นหรือตัดสินใจกับเรื่องราวส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น … อยู่ดี
ความติดขัดมันก็อยู่ตรงนี้ — ตรงที่เราอยากอยู่เบื้องหลังแต่คนอื่นไม่คิดว่าเราเป็นคนเบื้องหลัง
ถ้าเรากำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้
- มันอาจจะสื่อกับเราว่าทีมงานของเรายังไม่พร้อม?
- มันอาจจะชี้ให้เราเห็นว่าเรายังพยายามจัดการเรื่องนี้ได้ไม่ดีพอ?
ไม่ว่าจะทางไหน … มันเป็นปัญหาที่เกิดจากตัวเราทั้งสิ้น
ถ้าเราไม่เทคแอคชั่น … อะไรจะเกิดขึ้น? คนในทีมจะนิ่งเฉย หรือจะมีใครสักคนก้าวเท้าออกมารับหน้าและรับผิดชอบ?
คำตอบนั้นน่าสนใจอย่างยิ่งเพราะไม่ว่าอย่างไรกับมุมมองของคนนอกแล้ว ความเป็นมืออาชีพถูกวัดจากผลงานของทีมในฐานะขององค์กร ถ้าไม่มีใครออกมาจัดการ … มันก็หนีไม่พ้นว่าต้องเป็นตัวเราอยู่ดี
สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปก็สำคัญเพราะเราต้องเลือกระหว่าง
- เรายึดอำนาจทุกอย่าง ดำเนินการทุกเรื่องด้วยตัวเองเพื่อจัดการปัญหาหรือสถานการณ์เฉพาะหน้าให้มันจบๆไป
- เราอดทนรอดูว่าจะมีใครในทีมเทคแอคชั่นหรือไม่ เรากระตุ้นและสนับสนุนพวกเขาอยู่หลังไมค์ให้รับผิดชอบเรื่องเหล่านี้
ตัวเลือกแรกเราจะได้ความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการจัดการเพราะเราตัดสินใจเองทั้งหมด แต่ … คอขวดยังคงอยู่ เมื่ออีกฝ่ายรู้แล้วว่าเราเป็นใคร … ทุกอย่างจะวิ่งตรงมาหาเราไปเรื่อยๆและเรื่อยๆ
ตัวเลือกที่สองนั้นบาดใจ ต้องอดทน ต้องเป็นพี่เลี้ยง ต้องเสี่ยงที่จะเห็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจและเทคแอคชั่นของคนในทีมที่ยังมีประสบการณ์ไม่พอ … แต่ระยะยาวเรากำลังสร้างทีมงานที่ยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง เป็นทีมงานที่มีจิตสำนึกและทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผมเจอเหตุการณ์แบบนี้อยู่ทุกวัน … หลายครั้งก็ลืมตัวก้าวเท้าเข้าไปจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง … แต่ผมก็ต้องเตือนตัวเองตลอดเวลาเหมือนกันว่าความอดทนและการทำตัวเป็นพี่เลี้ยงที่ดีคือตัวเลือกที่ถูกต้องมากกว่า
เมื่อเขารู้จักเราแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้เขาไม่รู้จักเรา แต่เราชี้นำได้ว่า … ไม่จำเป็นต้องคุยกับเราหรือรอการตัดสินใจจากเราเสมอไป เรามีทีมงานที่เป็นงาน เรามีทีมงานที่ใส่ใจ … การคุยกับพวกเขาเหล่านั้นก็เหมือนคุยกับเราโดยตรงนั่นแหละ