✍🏼 สร้างบนความไม่แน่นอน

มนุษย์คนที่หนึ่งใช้ชีวิตอยู่ในคฤหาสน์หรูหรา นอนหลับสบายอยู่บนเตียงขนาดความกว้าง 10 ฟุตเป็นกิจวัตร 🏯

มนุษย์คนที่สองสนุกสนานกับเล่นบอลลูนลูกยักษ์ เดินทางผ่านน้ำ ผ่านหุบเขา รับแรงลมปะทะร่างกายจนหนาวไปถึงกระดูกเป็นเรื่องปกติ 🏔

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครจะตื่นตัวกว่ากัน ใครจะรู้สึกมีชีวิตชีวากว่ากัน ใครจะมีความมั่นใจในการเผชิญโลกมากกว่ากัน

การประคองชีวิตให้อยู่รอด (และเฉิดฉาย) บนความไม่แน่นอนนั้นยากและท้าทาย ไม่ต่างอะไรกับการสร้างธุรกิจและการสร้างซอฟต์แวร์ และความไม่แน่นอนนี่แหละคือสิ่งที่ผมและทีมงานมองหา

มุมมองเชิงธุรกิจ — ปัญหาที่น่าสนใจ ปัญหาที่น่าจะได้รับการแก้ไข ปัญหาที่คนอื่นมองข้าม ปัญหาที่ไม่ซ้ำเดิม ปัญหาที่ซับซ้อน ปัญหาที่เรายังไม่รู้คำตอบที่แน่ชัด

มุมมองเชิงประสบการณ์ลูกค้า — จะทำให้การใช้งานระบบดีขึ้นง่ายขึ้นเร็วขึ้นได้อย่างไร? จากกระดาษมาเป็นซอฟต์แวร์ จากซอฟต์แวร์ดึกดำบรรพ์มาเป็นอะไรที่ทันสมัยขึ้น จากการออกรายงานแบบเน้นตัวเลขมาเพิ่มส่วนการวิเคราะห์และนำข้อมูลที่ได้กลับไปใช้ จากแมนน่วลมาเป็นอัตโนมัติ

มุมมองเชิงเทคนิค — จากวินโดว์สแอพมาเป็นเวป จากเวปมาเป็นโมบาย มาเป็นอุปกรณ์ที่สวมใส่ได้ (Wearable Devices) จากซอฟต์แวร์อย่างเดียวมาเป็นโซลูชั่นที่หยิบเรื่องฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคมาช่วย

มันคือจุดเริ่มต้นของไอเดีย แรงจูงใจในการลงทุนคิดและทดลอง มันเป็นที่มาของความรู้สติปัญญาประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากการทำงานอะไรที่ซ้ำเดิม และมันจะช่วยดึงศักยภาพที่ดีที่สุดของทีมงานออกมาได้

แล้วเราควรเริ่มต้นจากที่ไหน?

  1. ความตั้งใจที่จะไม่ทำอะไรที่ซ้ำซากและน่าเบื่อ
  2. อย่าสนใจสิ่งที่มีอยู่แล้ว ไม่ต้องไปเสียเวลาหาดูว่าคนอื่นเขาแก้ปัญหานี้ยังไง ไม่ต้องไปขุดคุยดูว่าซอฟต์แวร์แบบนี้มีฟีเจอร์อะไรบ้าง … เรามีความตั้งใจจะคิดใหม่ทำใหม่ การหันไปดูของเก่ามีแต่จะทำให้เราเสียสมาธิ
  3. จินตนาการอนาคตที่เราอยากเห็น อะไรที่จะทำให้ผู้ใช้มีความสุขที่สุด หัดวาดภาพนี้ในสมองเอาไว้ หัดคิดย้อนกลับจากภาพอนาคตมาเป็นงานที่เราต้องทำ
  4. สำคัญสุด … อย่าไปกลัวคำว่า “ฉันไม่รู้จะทำยังไงเลย” เพราะมันคือประโยคทองคำที่จะนำเราไปสู่นวัตกรรม ผมได้ยินเพื่อนผมพูดตลอดเวลาว่า “ทำไม่เป็นหวะ ต้องหาเพิ่ม ต้องอ่านเพิ่ม ต้องลองเพิ่ม” แล้วสุดท้ายพวกเขาก็ทำได้ทุกครั้งไป ต่อไปนี้ถ้าได้ยินใครพูดว่า “น่าสนใจ แต่ทำยังไงก็ไม่รู้นะ” ก็คิดไว้ได้เลยว่าเรามาถูกทางแล้ว ฮ่าๆ

ทั้งหมดนี้เพราะผมเชื่อว่าการใช้ชีวิตหมายถึงการยืนขาเดียวอยู่ขอบหน้าผากลางพายุฝนกระหน่ำ … การใช้ชีวิตคือความไม่แน่นอน … และความไม่แน่นอนนำมาซึ่งชีวิตที่ได้รับการเติมเต็มสำหรับอนาคต 🌪🌋

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *