เราทำงานเสร็จไม่ทันเพราะเราไม่มีเวลาทำงาน … เหตุผลและตรรกะที่ดูงี่เง่าแต่เป็นเรื่องจริง
ที่บอกว่า “เราไม่มีเวลาทำงาน” นั้นมันเป็นปัญหาระดับโลกที่ไม่ว่าบริษัทใหญ่เล็กต้องเผชิญ มันไม่ใช่เรื่องของปริมาณงานเพียงอย่างเดียวแต่มันเป็นเรื่องของแนวคิดด้วย
🙅🏼♂️ ยกเลิกธรรมเนียมการนัดประชุมแบบซ้ำ
รีเคอริ่ง มีตติ้งที่เกิดขึ้นทุกวัน ทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือนคือแหล่งดูดเวลาและสมาธิในการทำงานชั้นดี ส่วนตัวผมไม่เชื่อว่าการประชุมประเภทนี้คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไป มันเป็นเรื่องไม่ปกติที่เราจะมีอะไรเร่งด่วนให้อัพเดตกันได้ทุกวันทุกวีค มันไม่ใช่เรื่องถูกต้องถ้าการตัดสินใจทั้งหมดถูกเลื่อนมาเพื่อการพูดคุยในห้องประชุม มันไม่ใช่เรื่องดีที่เราจะโยนทุกเรื่องไปทิ้งไว้เป็นวาระการประชุมรอบหน้า “เดี๋ยวเอาไว้คุยในห้องประชุมศุกร์นี้” … มันไม่ใช่วัฒนธรรมการทำงานที่ถูกต้อง
ที่สำคัญ … การประชุมประเภทนี้ (และเกือบทุกประเภท) จะมีคนถูกเชิญมากเกินความจำเป็น คนในห้อง 70% ฟัง 30% พูดและแสดงความคิดเห็น นั่นคือความไร้ประสิทธิภาพอย่างยิ่งของการใช้เวลา
ลดปริมาณการประชุมแบบซ้ำไปได้ 20% เราจะได้เวลาอันมีค่าคืนมาเป็นสองเท่า
🎧 หยุดการสื่อสารระหว่างกันบ้าง
ถ้าวันไหนที่ผมมีงานสำคัญที่ต้องทำ งานที่ต้องคิดเยอะ รวมถึงงานที่เร่งด่วน ผมจะเลือกทำงานจากบ้าน ทำไม?
คำตอบง่ายมาก … บ้านมันเงียบกว่าออฟฟิศ เงียบจากเสียงพูดคุย เงียบจากบทสนทนายาวๆทั้งเรื่องงานและไม่ใช่เรื่องงาน
ที่บ้านเรากำหนดสภาพแวดล้อมการทำงานได้เต็มที่ เปิดปิดทีวี ใส่ถอดหูฟัง หยุดพักเริ่มงานได้ตลอดเวลา มันสร้างสมาธิได้ดีกว่ามาก มันผ่อนคลายกว่ามาก และงานที่ต้องใช้สมองเยอะๆจะเดินหน้าไปได้เร็วกว่า
ถ้าทำงานที่บ้านโปรดักทิวิตี้ของผมจะสูงกว่าที่ทำงาน 2–3 เท่า … ในเวลาเท่ากันถ้าเราทำงานได้มากขึ้นก็เปรียบเหมือนเราได้เวลากลับคืนมามากขึ้นนั่นเอง
ยกเลิกการประชุมและได้รับอนุญาตให้ทำงานจากบ้าน … แนวทางที่จะเอาเวลาที่มีค่าของฉันคืนมา
ประเด็นคือเจ้านายเห็นด้วยมั้ย? 😏