ถ้าเราไม่เชื่อว่ามนุษย์ (พนักงาน) จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกชักจูงให้ทำในสิ่งที่ใจไม่อยากทำได้ง่ายๆ เราจึงไม่ควรเชื่อในคำว่าการสร้างแรงจูงใจภายนอก
“ทำยังไงเราถึงจะโมทิเวทเด็กๆในทีมของเราให้ทุ่มเททำงานมากกว่าได้บ้าง?” เป็นคำถามที่หาคำตอบที่ถูกต้องได้ยาก เพราะคนถามไม่เคยรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วเด็กๆต้องการอะไร — งานที่อยากทำ, อาชีพที่มองหา, อนาคตที่อยากได้ … คนถามไม่เคยเข้าถึงแรงจูงใจภายในของแต่ละคน
นี่คือสาเหตุว่าทำไมการสร้างแรงจูงใจจึงเป็นเรื่องยาก และทำไมดูเหมือนเด็กๆแต่ละคนไม่ค่อยใส่ใจอะไรมากมาย
ถ้าเราเข้าใจเรื่องเหล่านี้ได้ … เราจะมีโอกาสสร้างทีมที่ไม่ต้องการให้ใครมาบิ้วด์มาช่วยสร้างแรงจูงใจภายนอก ตัวทีมงานเองก็ไม่เคยต้องโมทิเวทใคร ทั้งหมดที่เป็นอยู่เกิดจากแรงจูงใจภายในล้วนๆ
พวกเรามีความใฝ่ฝันอยากมีบริษัทเล็กๆแต่เก่งๆ — ทุกคนกำลังช่วยกันสร้างมันขึ้นมา
พวกเราอยากสร้างงานดีๆให้คนรอบข้าง — พาร์ทเนอร์ ลูกค้า อยากตอบแทนความไว้วางใจที่พวกเขามีให้ต่อพวกเรา อยากสร้างโปรดักส์และเซอร์วิสดีๆให้โลกนี้ อยากทำให้โลกนี้ฉลาดขึ้น อยากทำให้ผู้ใช้แฮปปี้มากขึ้น
พวกเรามีความใฝ่ฝันอยากมีชีวิตที่เป็นอิสระ — ตั้งแต่วันแรก ทุกคนอยู่กันด้วยความเชื่อใจไม่มีกฎเกณฑ์ข้อบังคับไร้สาระ และให้ความสำคัญต่อชีวิตส่วนตัวไม่น้อยกว่าหน้าที่การงาน
พวกเราอยากได้รายได้ที่มั่นคง — ทุกคนรู้ว่าเหนื่อยวันนี้เพื่ออนาคตวันหน้า เหนื่อยวันนี้เพื่อตัวเอง ถ้าบริษัทมีรายได้มาก ทุกคนก็มีรายรับมากตามไปด้วย ไม่ต้องแบ่งใคร ไม่ต้องส่งเงินให้ผู้ถือหุ้นหรือเจ้าของเงินทุน … ทุกคนรู้ว่าผลตอบแทนที่ได้กลับมาเป็นของพวกเราทุกคนเท่านั้น
พวกเราตั้งใจจะพิสูจน์ให้เห็นว่าเล็กดีกว่าใหญ่ — ทุกคนเคยมีประสบการณ์ทำงานบริษัทใหญ่มา รู้และเห็นในสิ่งที่ไร้ประสิทธิภาพ การเมืองน้ำเน่า การตัดสินใจที่ล่าช้า กระบวนการที่ไม่ตอบสนองกับโลกที่หมุนไปทุกวัน … พวกเราอยู่ที่นี่เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าเล็กดีกว่าใหญ่
ทำไมถึงแคร์ เพราะแรงจูงใจภายใน เพราะคิดและต้องการในสิ่งเดียวกัน
ทำไมถึงไม่แคร์ เพราะไม่มีแรงจูงใจจากภายใน เพราะคิดและต้องการในสิ่งที่ต่างกัน