ลึกๆแล้วเราอาจจะเป็นคนชอบทำอะไรเองคนเดียว นั่นอาจจะเป็นเพราะเราเป็นผู้ตามที่แย่และต้องการควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างไว้ทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว เราไม่ค่อยไว้ใจแบ่งงานให้ใครเท่าไรและถ้าเป็นไปได้เราพร้อมลงทุนลงแรงทำเอง
เราไม่ค่อยคลั่งไคล้ไอเดียที่ต้องฝากความหวังไว้กับคนนอกหรือพาร์ทเนอร์ รู้สึกไม่ค่อยดีเสมอเมื่อพูดถึงคำว่า “เอ้าซอร์ส” มันเป็นเรื่องที่ห้ามไม่ได้เพราะเราเป็นคนแบบนี้ และมันก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เช่นกันที่เราและบริษัทเล็กๆจะทำอะไรทุกสิ่งอย่างได้เพียงลำพัง มันเป็นความขัดแย้งที่ยากจะปฏิเสธ … ก็เลี่ยงมันไม่ได้ถึงแม้จะอยากทำทุกอย่างเองมากแค่ไหนก็ตาม
การรวมตัวแนวลึก (Vertical Integration) คือการที่ใครหรือองค์กรใดเลือกที่จะควบคุมกระบวนการทางธุรกิจจากบนลงล่าง เช่น ในห่วงโซ่อุปทานของข้าวสารหนึ่งถุงตั้งแต่
- การปลูกข้าว
- การเก็บเกี่ยว
- การแปรรูป
- การจัดส่ง และ
- การขายหน้าร้าน
เราเป็นเจ้าของขั้นตอนไหนบ้าง? สมมติว่าเราคือเจ้าของแบรนด์ เราอาจจะเชี่ยวชาญและจัดการอย่างเบ็ดเสร็จแค่ขั้นตอนที่สาม — การแปรรูป เพราะข้าวมาจากชาวนาทั่วไป การจัดส่งก็จ้างรถขนส่งทั่วไป และการขายหน้าร้านก็ผ่านร้านสะดวกซื้อเจ้าใหญ่ แนวคิดที่จะสร้างการรวมตัวเชิงลึกคือการขยายอำนาจการควบคุมจัดการไปยังขั้นตอนอื่นๆในห่วงโซ่ด้วย ไม่ใช่แค่แปรรูปแต่เรายังเป็นเจ้าของแปลงนาและหน้าร้านเองเป็นต้น
การรวมตัวกันนี้ไม่ใช่ว่าจะเป็นไอเดียที่ดีเสมอไป ถ้าเราสามารถหาซื้อสินค้าหรือการบริการที่สมบูรณ์แบบได้จากซัพพลายเออร์หรือพาร์ทเนอร์ทั่วไปมันก็จะเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มค่าที่เราจะลงทุนและฝ่าฟันอุปสรรคในการเรียนรู้เพื่อที่จะสร้างความเชี่ยวชาญในงานขั้นตอนอื่นๆในห่วงโซ่ อย่างไรก็ตามถ้ากลยุทธ์หลักของเราต้องการการปรับเปลี่ยนในองค์ประกอบต่างๆอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องการที่จะเรียนรู้ถึงความมีปฏิสัมพันธ์กันระหว่างองค์ประกอบต่างๆแล้วมันจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่เราต้องเป็นเจ้าของและควบคุมองค์ประกอบเหล่านั้นไว้ทั้งหมด
งานหนัก แต่มันคงได้บรรยากาศความสนุกไปอีกแบบ การตัดสินใจเร็ว ความกล้าเสี่ยงที่จะทำในสิ่งนอกกรอบ และความสนุกตื่นเต้นที่ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ … ถ้าโอกาสมาแล้วต้องลองต้องคว้าไว้ 🥶