เมื่อเรากดปุ่ม “ส่ง” อีเมล
เมื่อเราหย่อนจดหมายลงในตู้
เมื่อเราจิ้มเครื่องหมายหัวลูกศรในแมสเซนเจอร์และไลน์
เมื่อเราพูดคำอำลาก่อนปิดการประชุม
เมื่อเราเปิดสไลด์หน้าแรกขึ้นมา
เมื่อเราขึ้นต้นประโยคในการให้ความคิดเห็น
ทั้งหมดคือการลงลายเซ็นของเรา ไม่ว่าเราจะเป็นใคร สวมหมวกใบไหน และมีอำนาจในมือมากหรือน้อย การกระทำทุกอย่างคือลายเซ็น
ไม่ต้องเขียน “รับรองสำเนาถูกต้อง” เพราะผู้รับรู้อยู่แล้วว่ามันมาจากใคร คนที่จริงใจหรือหวังผลประโยชน์, คนที่ใส่ใจหรือเห็นแก่ตัว, คนที่ซื่อสัตย์หรือกลับกลอก, คนที่แสดงความเคารพหรือยกตนข่มท่าน, คนที่เป็นผู้ปกป้องหรือโยนบาป, คนที่รักษาคำพูดหรือโอนเอนตามแรงกดดัน, คนที่เข้าใจหรือไม่รับฟัง
ลายเซ็นที่เป็นเหมือนเอกลักษณ์ติดตัวที่ไม่มีใครเลียนแบบได้ ลายเซ็นที่บางครั้งทำให้ผู้รับรู้สึกไม่ดี แต่โชคดีที่ลายเซ็นนี้เปลี่ยนแปลงได้ มันไม่ใช่เรื่องของโชคลางหรือความถูกโฉลก เราเปลี่ยนได้เพราะเราตระหนักถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย เราเปลี่ยนได้เพราะเราอยากเป็นคนที่ดีกว่าเดิม
เราเปลี่ยนได้เพราะเราอยากส่งความใส่ใจไปให้ผู้รับในทุกครั้งที่เรากดปุ่ม, หย่อนจดหมาย, หรือกล่าวคำอำลากับใครสักคน