บริษัทเกิดใหม่หลายแห่งอยู่ได้ด้วยศักยภาพ … ในช่วงเริ่มต้น
เนื่องจากเราขายไอเดีย ยังไม่ได้ขายโปรดักท์
เราขายฝัน ยังไม่ได้ขายตัวเลขรายรับ
เราขายโอกาสในการเติบโต ยังไม่ได้ขายฐานลูกค้าปัจจุบัน
เราขายทีมงาน ยังไม่ได้ขายแบรนด์สินค้าที่ติดตลาด
การชักจูงกลุ่มคนจากภายนอกมาลงทุนในบริษัทของเราจึงเป็นเรื่องของการขายศักยภาพล้วนๆ
การขายศักยภาพเป็นเรื่องของแรงจูงใจ เรื่องของความเชื่อมั่น เรื่องของแผนระยะกลางและยาว เรื่องของเทคโนโลยีและโปรดักท์ที่เป็นไปได้
ในการนำเสนอขายหุ้น … จริงอยู่ที่ตัวเลขรายรับเป็นเรื่องสำคัญแต่มันไม่ควรจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ไอเดีย โปรดักท์ ความแตกต่าง แผนการเข้าสู่ตลาด ทีมงาน โมเดลธุรกิจ เป้าหมายระยะสั้นกลางและยาวควรจะเป็นหัวข้อที่ได้รับการใส่ใจและพูดคุยกันมากที่สุด
มันเปรียบได้เหมือนเป็นสัญญาณไฟแดงเล็กๆถ้านักลงทุนยิงคำถามอย่างหนักหน่วงมาที่ตัวเลขรายรับที่เราคาดการณ์ไว้ จุดเล็กจุดน้อย ตัวเลขหลักสิบหลักหน่วยก็ไม่ยอมปล่อย อยากซักไซ้ไล่เรียงเอาให้ลึกถึงราก ถ้าเป็นแบบนี้เราต้องตั้งข้อสังเกตไว้ได้เลยว่า “พวกเขาไม่เข้าใจศักยภาพของบริษัทเราดีพอ พวกเขาอาจจะไม่ใช่คนที่เหมาะสมกับบริษัทของเรา”
หรือ
“เราสอบตกเรื่องการวาดภาพอนาคตที่เป็นไปได้ของบริษัทนี้ให้พวกเขาคล้อยตาม”
เรามีแรงจูงใจพอมั้ย? เราเชื่อมั่นในบริษัทนี้จริงมั้ย? เราเข้าใจตลาด โอกาส ลูกค้า เทคโนโลยี และโปรดักท์ของเราดีแค่ไหน?
จำไว้ว่า … ในตอนนี้เราต้องขายด้วยศักยภาพ จะว่ายากก็ยากเพราะรายได้ยังไม่เยอะ กำไรยังไม่มีแบบเป็นกอบเป็นกรรม การพูดให้คนอื่นเชื่อก็เป็นเรื่องท้าทายไม่ใช่น้อย
แต่จะว่าง่ายก็ง่าย … ถ้าไอเดียดีจริง ถ้าเราฝึกซ้อมมาอย่างดี ถ้าเราเรียบเรียงเรื่องราวให้มันน่าสนใจและถ้าเราแสดงให้คนฟังเห็นว่าเราจริงจังและทำงานอย่างมืออาชีพที่สุดเท่าที่จะทำได้
ศักยภาพนั้นสื่อสารได้ … แต่มันต้องเกิดจากความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและฝึกฝนอย่างหนักหน่วง