เรามองเห็นดวงอาทิตย์ทุกวัน
เราเห็นปักกิ่งแค่จากในรูปภาพ
อะไรอยู่ใกล้กว่ากัน?
หลายครั้งสิ่งที่เห็นก็ไม่ใช่สิ่งที่มันเป็นเสมอไป
การตั้งเป้าหมายว่าเราจะไปดวงอาทิตย์เพราะมันเหมือนอยู่ใกล้แค่มือเอื้อมก็เป็นเรื่องไร้เดียงสาเกินไป
- ลูกค้ารายใหญ่เปรียบเหมือนดวงอาทิตย์ เห็นอยู่ต่อหน้า แต่เดินเท่าไรก็ไม่ถึงสักที
- คู่แข่งรายใหญ่เปรียบเหมือนดวงอาทิตย์ เห็นอยู่ต่อหน้า แต่พยายามเท่าไรเราก็เทียบพลังอำนาจไม่ได้สักที
มันเป็นเรื่องผิดพลาดถ้าเราอยากก้าวหน้าด้วยการตั้งเป้าหมายไว้เป็นสิ่งที่มองเห็นแต่อยู่ไกลแสนไกล
ฉันจะเก่งที่สุดในโลก ฉันจะเอาชนะคู่แข่งทุกคน ฉันจะเอาบริษัทเข้าตลาดหุ้น ฉันจะร่ำรวยล้นฟ้า
มันเป็นเรื่องที่ถูกต้องกว่า ในฐานะผู้จัดการหรือหัวหน้าทีมที่จะจดจ่อกับงานตรงหน้า ทีละงาน ทีละชิ้น ตั้งเป้าหมายที่คลุมเครือแต่รู้ว่าเป็นไปได้ เดินทีละก้าว จากบ้าน ไปสุวรรณภูมิ แล้วถึงปักกิ่ง
แต่ในมุมกลับกัน มันก็น่าสนใจที่ว่า … ในฐานะผู้นำองค์กร คนที่ไม่ได้มีหน้าที่ผลักดันให้งานเสร็จตามแผนแต่เป็นคนที่ต้องนำด้วยการสร้างแรงบันดาลใจให้คนในทีม การชี้นิ้วไปที่ดวงอาทิตย์แล้วโน้มน้าวให้ทุกคนเชื่อว่า “นั่น มันอยู่ตรงนั้น เราทุกคนมองเห็นมัน และเป้าหมายที่ว่านั้นเป็นไปได้ถ้าเราทุกคนช่วยกัน”
แน่นอนว่าเราไม่เชื่ออย่างจริงจังหรอกว่าจะไปถึงดวงอาทิตย์ แต่อย่างน้อยเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่และดูเหมือนว่าไกลเกินฝันมันคือความท้าทายที่ช่วยเติมเต็มความทะเยอทะยานของคนในทีมได้ดีกว่า … ดวงอาทิตย์ดีกว่าปักกิ่งแน่นอนในกรณีนี้
คำถามคือ … ตอนนี้เราสวมหมวกใบไหน? ผู้จัดการหรือผู้นำองค์กร