🤟🏼 ความรู้สามส่วน

นการทำงานอะไรให้ได้ดี เราจำเป็นต้องใช้องค์ประกอบสามส่วนดังนี้

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับงาน — ที่เรียกว่า Application Knowledge ซึ่งเป็นความรู้, ทักษะหรือประสบการณ์ในเชิงวิชาการที่ใช้ได้ท่ัวไป เช่น ความรู้เรื่องการเขียนโปรแกรมภาษาจาวา ความรู้เรื่องการออกแบบโปรดักท์ ความรู้ในการบริหารโครงการ ความรู้เรื่องการทำวิจัยตลาด ความรู้เรื่องการเงินการบัญชี ความรู้เกี่ยวกับการขาย

ความรู้เฉพาะทางในอุตสาหกรรม — ที่เรียกว่า Domain Knowledge ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจที่เราทำหรือมีส่วนร่วมอยู่ เช่น ความรู้เกี่ยวกับอีคอมเมิร์ส ความรู้เกี่ยวกับซอฟต์แวร์สำหรับธนาคาร ความรู้เรื่องแฟชั่น ความรู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมสายการบิน ความรู้ด้านการทำเกษตรสมัยใหม่

ไม่มีงานไหนที่ใช้ความรู้ด้านเดียวแล้วจะประสบความสำเร็จ การทำงานเกิดจากองค์ความรู้แบบประยุกต์เสมอ นั่นคือผมเขียนโปรแกรมเป็นนะแต่ไม่ค่อยเข้าใจงานด้านแบงค์กิ้งเลย … แบบนี้ก็พอไปได้แต่ไม่เต็มศักยภาพ

หรือผมเชี่ยวชาญเรื่องการเกษตรสุดๆแต่ … อยากทำสมาร์ทฟาร์มแต่ไม่มีความรู้เรื่องไอโอทีหรือเซนเซอร์เลย แบบนี้ก็ไม่รอด

ทั้งสองต้องมาพร้อมกัน

และก็จะขาดส่วนที่สามไม่ได้เช่นกัน

ความเต็มใจ — อันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวที่บังคับกันยากหน่อย ศักยภาพจะฉายแสงเต็มที่เมื่อเราใส่ใจที่จะพัฒนาตัวเองให้เก่งและดีขึ้นในทุกวัน อุปสรรคมักเป็นแบบนี้

ผมมีความรู้ด้านการออกแบบโปรดักท์ในระดับที่ดี มีประสบการณ์และความเข้าใจเรื่องแอปอีคอมเมิร์สมาพอสมควร แต่ผมเบื่อแล้ว ไม่อยากรู้ไปมากกว่านี้ ไม่อยากทำ ไม่มีแรงกระตุ้นเหลือแล้ว

ยากจะไปต่อ

ลำบากกับทั้งตัวเอง เพื่อนร่วมทีม และทีม

ทั้งสามข้อต้องมาพร้อมกัน … อะไรสำคัญที่สุด … ผมคงต้องเลือกข้อสามเพราะถ้ามีความเต็มใจ สองข้อแรกมันสร้างได้จากความพยายามส่วนตัว

ถ้าไม่เต็มใจ … การบังคับก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดอยู่แล้ว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *