การตรงต่อเวลาไม่ใช่พรสวรรค์ ไม่ใช่ทักษะและความสามารถพิเศษ แต่มันคือทัศนคติ และทัศนคตินั้นสร้างได้
เมื่อทัศนคติสร้างได้แปลว่าทุกคนก็ตรงต่อเวลาได้ ที่จริงแล้วมันคือคุณสมบัติข้อแรกที่ง่ายที่สุดที่ใครสักคนจะมีได้ด้วยซ้ำไป มันอยู่ในการควบคุมของเรา 100%
การไม่ตรงต่อเวลาคือหลักฐานที่ชัดเจนมากของความไม่ใส่ใจ ความไม่พร้อม การไม่เตรียมการ และมันคือการขาดความเป็นมืออาชีพอย่างยิ่ง
สำหรับผมมันแทบไม่มีข้ออ้างเลยสำหรับการมาสาย … โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
(ผมจริงจังกับเรื่องนี้มาก ถึงขนาดที่ว่าผมไม่รอเพื่อนที่มาสายแค่ 5 นาทีเพราะถ้าผมรอผมอาจจะไปถึงจุดหมายสายไปด้วย — บางคนบอกว่าผมบ้า แต่ผมก็เป็นของผมแบบนี้มาตั้งนานแล้ว แล้วก็จะยังเป็นต่อไปด้วยความภูมิใจ)
“ผมเป็นผู้บริหาร งานเยอะ งานยุ่ง มีคนต่อคิวคุยด้วยเป็นสิบ … มาสายบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก มันไม่ใช่ความผิดผมนะ” — ผิด!!! มันคือความผิดของคุณเต็มๆ (นี่แหละคือทัศนคติที่ผมกำลังพูดถึง)
ถ้าเรามีทัศนคติที่ดี — เวลาของคนอื่นก็สำคัญไม่แพ้เวลาของตัวเราเอง และเรามีการจัดการที่ดี … เราจะตรงต่อเวลาเสมอ
- หัดปฏิเสธงานไปบ้าง — ไม่ใช่ตอบตกลงกับทุกประชุม ไม่ใช่รับเป็นเจ้าภาพมันทุกเรื่อง ไม่ใช่ต้อง “ใฝ่รู้” และ “อยากมีส่วนร่วม” กับทุกอย่าง
- เรียนรู้จะที่กระจายความรับผิดชอบบ้าง — ไม่ใช่รวมอำนาจตัดสินใจมาอยู่กับตัวเองคนเดียว มองซ้ายมองขวาแล้วแบ่งอำนาจการตัดสินใจไปให้คนใกล้ตัวบ้าง
- เลิกรอคนที่มาสาย — ถ้าเราตรงเวลา เราต้องคาดหวังว่าคนอื่นต้องตรงเวลาและถ้ามีใครไม่ตรงเวลาก็ข้ามคนเหล่านั้นไปเลย ไม่ต้องรอ ไม่ต้องเปลี่ยนแผน การรอคนที่มาสายเหมือนเป็นการลงโทษคนที่มาเร็วหรือตรงเวลา … คนทำดีแต่ได้ผลลัพธ์แย่ๆ มันสมควรมั้ย?
- ทำตามเวลาที่กำหนด — ถ้าระบุในคำเชิญว่าการประชุมนี้ใช้เวลา 30 นาที มันต้องจบภายใน 30 นาที ไม่มีเกินนั้น ตรงประเด็น ตัดสินใจ แล้วข้ามไปเรื่องต่อไป ขอเนื้อๆไม่เอาน้ำ ไม่มีดราม่า ไม่มีเพ้อเจ้อ
- อย่ามาตรงเวลา — ให้มาก่อนเวลาเสมอ นั่นแปลว่าอย่ารับงานซ้อน อย่ารับงานชิดกัน อย่านัดสามคนต่อกันในช่วงเช้า และอย่ารับนัดด่วนแบบที่ไม่มีเวลาได้เช็คตารางให้ละเอียด
แค่ห้าข้อ ถ้าทำได้เราจะเป็นคนตรงเวลาในทุกครั้ง ยิ่งตำแหน่งสูงยิ่งต้องทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดีเพราะทุกคนเขาเฝ้ามองเราอยู่ เดินเข้ามาในห้องประชุมเป็นคนแรก นำการประชุมอย่างมีประสิทธิภาพ ปิดการประชุมอย่างตรงเวลาในทุกครั้ง … นี่ไม่ใช่ความเพ้อฝันแต่เป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ยากถ้าเราตั้งใจจะทำมันจริงๆ
… ถ้าเวลาตัวเองยังจัดการไม่ได้ … แล้วเราจะจัดการกับเรื่องที่ยากกว่านี้ได้อย่างไร