“ฉันทำสิ่งนี้” — เป็นประโยคที่มีความหมายลึกซึ้งมาก
ไม่ใช่ “ฉันขายสิ่งนี้”
ไม่ใช่ “ฉันเมเนจทีมนี้”
ไม่ใช่ “ฉันคิดเรื่องนี้”
แต่เป็น “ฉันทำสิ่งนี้”
ช่วงเวลาประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้พบปะผู้คนมากมาย ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐทั้งจากบริษัทเอกชน ผมรู้สึกถึงความภาคภูมิใจอย่างมากที่ได้พูดว่า “นี่ครับ ผมทำสิ่งนี้” … “นี่ครับ โปรดักท์ของผม พวกผมทำมันขึ้นมาเอง”
ผมไม่ได้ตั้งใจมาขายของ ผมไม่ได้ตั้งใจมาเอาเครดิตอะไรทั้งสิ้น … ผมแค่อยากบอกกับคนทั่วไปว่า
“นี่ครับ ผลงานของพวกผม มันใกล้เคียงกับสิ่งที่พวกคุณมองหาอยู่มั้ย?”
“นี่ครับ ผมทำมันขึ้นมาเอง สนใจอยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งนี้มั้ย?”
“ฉันทำสิ่งนี้” นั้นลึกซึ้งเพราะมันคือประโยคที่แสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมทั้งกายและใจของผู้พูด มันลึกซึ้งเพราะมันคือประโยคที่แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทอย่างไม่ลดละจนได้ผลสำเร็จของผู้พูด 🏆
มันลึกซึ้งเพราะมันคือประโยคที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นรูปธรรมจับต้องได้ไม่เหมือน “ฉันเมเนจทีมนี้” หรือ “ฉันคิดเรื่องนี้” และมันคือประโยคเชิญชวนไม่ใช่ชักจูงเหมือน “ฉันขายสิ่งนี้”
ท้ายที่สุดแล้วการลงมือทำคือสิ่งเดียวที่สร้างความก้าวหน้า ท้ายที่สุดแล้วการลงมือทำเท่านั้นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ … วันนี้ฉัน“ทำ”อะไรไปแล้วบ้าง? นี่เป็นคำถามสำคัญที่ทุกคนควรต้องถามตัวเองทุกวัน ไม่ว่าจะอาชีพไหนหรือตำแหน่งอะไร เราควรต้อง“ทำ”หรือ“สร้าง”บางสิ่งให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมอย่างสม่ำเสมอ
มันไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่เท่ากับโปรดักท์สักตัว มันอาจจะเป็นการทำอะไรเล็กๆน้อยๆ … ฉันเขียนบทความนี้ ฉันเขียนแผนธุรกิจนั้น ฉันแก้บั๊กไปสามตัว ฉันวาดรูปวิวทิวทัศน์ ฉันทำรายงานจนเสร็จ ฉันปิดดีลกับลูกค้าได้ ฉันรวบรวมฟีดแบคจากผู้ใช้มาครบแล้ว ฉันช่วยเทรนงานให้เพื่อนใหม่ และอื่นๆ
ผมได้ความรู้สึกที่ดีจริงมากทุกครั้งที่ได้พูดว่า “ผมทำสิ่งนี้ครับ”
วันนี้ฉัน“ทำ”อะไรไปแล้วบ้าง?