ผมเปรยกับเพื่อนในทีมไปเมื่อไม่กี่วันนี้ว่า “อยากได้เดฟอีกสัก 10 คนหวะ”
มันเป็นคำพูดที่สื่ออะไรหลายอย่างที่กำลังเกิดขึ้นกับบริษัทตอนนี้
- ธุรกิจไปได้ดี มีโอกาสมากมาย จุดที่ฉุดรั้งเราไว้คือขนาดทีมที่เล็กเกินไป
- ธุรกิจกำลังกระเสือกกระสน สินค้าที่ “น่าจะ” ขายดียังไม่เสร็จเป็นรูปเป็นร่าง จุดที่ฉุดรั้งเราไว้คือขนาดทีมที่เล็กเกินไป
โปรเจกต์เมเนจเม้นท์สอนเรามาตั้งแต่ต้นว่า ปริมาณงานกับทรัพยากรแปรผันตรงต่อกัน งานมากก็ต้องใช้คนมาก และงานน้อยก็ควรใช้คนน้อย คำถามคือตอนนี้เราเป็นแบบไหนระหว่าง
- โฟกัสที่การต่อยอดสินค้าที่ขายดีอยู่แล้วให้ขายดีขึ้นไปอีก
- พยายามทำงานที่ค้างอยู่เต็มไปหมดให้เสร็จเป็นชิ้นๆไป
ถ้าเป็นข้อแรกแปลว่าเรามั่นใจมากว่าเดฟอีก 10 คนจะช่วยเราให้ขยายตลาดได้เร็ว 10 คนอาจจะไม่เยอะเกินไปถ้าวางแผนมาอย่างดี แต่ถ้าเป็นข้อสองเราอาจจะต้องชั่งน้ำหนักให้ดีว่า 10 คนจะช่วยให้เราขายของได้หรือไม่
มันต่างกันมากระหว่างสถานการณ์ที่ขายได้แล้วกับมีความหวังว่าจะขายได้ การเพิ่มทีมงานคือความเสี่ยงสูงสุดอย่างหนึ่งของสตาร์ทอัพเพราะเพิ่มแล้วลดยาก เพิ่มแล้วคือรายจ่ายที่พุ่งสูงขึ้น แล้วถ้ารายรับไม่มาตรงตามแผน … ความลำบากจะเพิ่มเป็นทวีคูณ นั่นคือขายไม่ได้และต้นทุนจมลึกลงไปทุกเดือน
กลับมาที่ตัวเลข 10 คน … จำเป็นหรือไม่? คำตอบคือจำเป็นแน่นอนแต่ไม่ใช่ 10 คน การสร้างความสมดุลระหว่างขนาดและประสิทธิภาพการทำงานของทีมนั้นสำคัญ รับคน 10 คนเข้ามาเมื่อรวมกับของเดิมอีก 10 คน กลายเป็น 20 คน ทีมเดฟ 20 คนถือว่าใหญ่และยากต่อการดูแลมาก ยิ่งถ้าในช่วงแรกเราจำเป็นต้องถ่ายทอดความรู้ที่มีเกี่ยวกับระบบ สินค้า และบริษัทให้กับเพื่อนใหม่ ความเร็วที่หวังอาจจะกลายเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในช่วงแรกด้วยซ้ำ
มองอย่างไร 10 คนก็มากเกินไป เกินความสามารถที่เราจะจัดการให้ดีได้ … มีคนฉลาดหลายคนพูดไว้ “ถ้าเราหวังจะได้อะไรให้เอา 2 หารไว้เสมอ” ในกรณีนี้ก็เช่นกัน … ห้าคนน่าจะเป็นตัวเลขที่เหมาะสมกว่ามาก 😑