เมื่อไม่นานมานี้ผมไปอุดหนุนร้านเค้กแถวบ้านครับ ร้านนี้ทำเค้กหลายชนิด มีทั้งขายแยกชิ้นหน้าร้าน สั่งเป็นปอนด์ก็ได้ … ขนาดบุฟเฟ่ต์เค้กยังมีเลย ฮ่าๆ
ระหว่างกินเค้กช็อกโกแลตแมคคาเดเมียอย่างเอร็ดอร่อยอยู่นั้น ผมก็ได้ยินเสียงสนทนาระหว่างเจ้าของร้านและคุณลูกค้าที่อยากได้เค้กบางรสที่ไม่ได้ทำขายวันนี้
“สั่งคละรสได้ค่ะแต่ต้องขออนุญาตดูจำนวนที่จะสั่งด้วยนะคะ ถ้าสั่งห้าอย่าง 60 ชิ้นแล้วลูกค้าเอาไปแค่ 10 เหลือที่ร้าน 50 แบบนี้คงไม่ได้อะค่ะ มันขายไม่หมดค่ะ ร้านเราทำสดทุกวัน” — เจ้าของร้านอธิบาย
ผมได้ยินแล้วขึ้นเลย … รีบหยิบโทรศัพท์มาจดคำพูดของเจ้าของร้านไว้เพราะมันเป็นแนวคิดที่ดีมาก
ผมเปรียบเทียบเค้กกับฟีเจอร์ในซอฟต์แวร์ เมื่อเราต้องทำเค้ก 60 ชิ้นเพื่อขายแค่ 10 ชิ้นให้กับลูกค้าแค่คนเดียว ลองคิดภาพถ้ามีลูกค้าสามคน ห้าคน หรือ 10 คน … เราต้องทำเค้กกี่ชิ้น? แล้วมันจะเหลือทิ้งกี่ชิ้น?
เมื่อฟีเจอร์ที่ลูกค้าคนแรกต้องการไม่มีคุณค่ากับอีกเก้าคนที่เหลือ เราต้องทำกี่ฟีเจอร์เพื่อสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าทุกคน เราต้องรับภาระดูแลสิ่งที่มีคุณค่าน้อยไปอีกนานเท่าไร?
เลือกเพิ่มฟีเจอร์เข้าไปในซอฟต์แวร์ก็ไม่ต่างจากการที่เจ้าของร้านเค้กต้องพิจารณาสัดส่วนความต้องการกับการเสียทิ้ง ไม่ต่างจากการที่เจ้าของร้านเค้กต้องมองหาจุดร่วมตรงกลางของลูกค้าแต่ละคน
- ถ้าความต้องการไม่คุ้มค่ากับการเสียทิ้ง — ปฏิเสธ
- ถ้าไม่มั่นใจว่าจะเปลี่ยนของเหลือให้กลายเป็นประโยชน์ได้ — ปฏิเสธ
เจ้าของร้านเค้กเข้าใจในศิลปะของการเซย์โนอย่างดีทีเดียว 🙂 🧁 🍰 🥮 🎂