ผมทำบริษัทสตาร์ทอัพที่ขายแบบ B2B … ซึ่งการอยู่ด้วยตัวคนเดียวนั้นเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้เลย ถึงแม้เราจะสร้างโปรดักท์ได้แต่การขายให้องค์กรนั้นเป็น 🎬 หนังคนละเรื่อง 🎤 เทปคนละม้วนครับ ถ้าเราไม่มีเครือข่ายพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่งและกว้างขวาง … ความสำเร็จก็เหมือนจะอยู่ห่างจากเราไปไกล
คำถามคือพาร์ทเนอร์แบบไหนที่เรา (ในฐานะบริษัทสตาร์ทอัพ) ควรมองหา?
ผมเคยเจอมาทั้งสองกรณีครับ แรกเลยคือ “เราฝากพวกเขาขาย” — แปลว่าพวกเขาเห็นว่าระบบของเราสร้างคุณค่าได้เยอะ มีโอกาสทางตลาดอีกมาก และพวกเขาเต็มใจที่จะบุกตะลุยสร้างฐานลูกค้าให้เรา
แบบที่สองคือ “เรามาแลกกันขาย” — แปลว่าพวกเขาอยากขายให้เราแต่ในเวลาเดียวกัน … พวกเขาก็อยากให้เราเป็นตัวแทนขายสินค้าให้พวกเขาด้วย อืม เหมือนช่วยกันทำมาหากิน แต่ … มันไม่ใช่สตาร์ทอัพหนะสิ
แบบที่สองแปลว่าเราต้องเสียเวลาและสมาธิไปกับเรื่องขายของที่ไม่ใช่ของเรา แทนที่เราจะได้โฟกัสกับการสร้างโปรดักท์และสร้างธุรกิจของตัวเอง กลายเป็นว่าเราต้องรับผิดชอบยอดขายของพาร์ทเนอร์เราไปด้วย … มันเป็นเรื่องที่ไม่สมควร
รายได้ที่มาจากค่าส่วนแบ่งจากการขายให้พาร์ทเนอร์ได้มันไม่คุ้มกับเวลาที่เราเสียไปหรอกครับ ทุกครั้งที่มีใครติดต่อมาเพื่อขอให้เราเป็นตัวแทนขายสินค้าของพวกเขา — ผมได้แต่ยิ้มๆแล้วปฏิเสธไปทันทีเลย
สิ่งนี้ไม่ใช่สตาร์ทอัพ ไม่ใช่เรื่องที่เราควรจะเสียเวลาเก็บมาคิดให้ปวดหัวด้วยครับ 😑