ว่ากันเรื่องของสกอต คุ๊ก (Scott Cook) กับอินทูอิท (Intuit) อีกครั้งครับ … เรื่องที่น่าสนใจรอบนี้เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาโปรดักท์ตัวสำคัญของอินทูอิทที่ชื่อ ควิกบุ๊กส์ (QuickBooks) — ซอฟต์แวร์ทางบัญชีสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
สกอตเล่าว่าตัวเขาเองและทีมงานเกือบจะพลาดประเด็นสำคัญไปเพราะหมดเวลาไปกับเรื่องที่ไม่สำคัญ หลายปีมาแล้วที่ลูกค้าธุรกิจขนาดเล็กมากมายที่ประยุกต์ใช้ซอฟต์แวร์บริหารจัดการบัญชีส่วนตัวที่ชื่อ ควิกเคน (Quicken) ในการจัดการบัญชีให้ธุรกิจตัวเอง จากมุมมองของสกอตเองเขารู้สึกว่าการใช้ควิกเคนในรูปแบบนี้ไม่สมเหตุสมผลเลย ควิกเคนไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อธุรกิจขนาดเล็กเพราะมันไม่มีฟีเจอร์พวกเครดิด เดบิต เจ้าหนี้ ลูกหนี้ เงินรอรับ เงินรอจ่ายอะไรแบบนี้เลย มันเหมาะกับการใช้งานส่วนตัวมากกว่า
ทำไมคนพวกนี้ถึงใช้ควิกเคนทั้งๆที่มันมีซอฟต์แวร์บัญชีสำหรับธุรกิจในตลาดอีกตั้งเยอะแยะ? — สกอตตั้งคำถาม
มันกลายเป็นว่าซอฟต์แวร์บัญชีพวกนั้นนี่แหละที่คนเหล่านี้ไม่อยากได้มากที่สุด พวกเขาแค่อยากได้ระบบการจัดการบัญชีและการเงินที่ง่ายๆและใช้งานได้จริง ส่งอินวอยส์ได้ เก็บเงินได้ จ่ายบิลได้ … สิ่งที่จะช่วยพวกเขาได้มันเกี่ยวกับเราที่พวกเขาไม่ต้องการทำมากกว่าสิ่งที่พวกเขาอยากจะทำ เจ้าของธุรกิจเหล่านี้ไม่ได้อยากจะเข้าใจความซับซ้อนของมาตรฐานการทำบัญชี
“คนทั่วไปไม่รู้เรื่องพวกนี้หรอก พวกเขาแค่อยากเห็นเงินเข้าเงินออกอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ถ้าพวกเขาอยากจ่ายบิล … เขาอยากทำแค่ไม่กี่คลิ๊กบนหน้าจอ ไม่ใช่มาพยายามทำความเข้าใจกับทับศัพท์ที่น่าสับสนในภาษาบัญชี และถ้าเขาอยากเห็นว่าลูกค้าคนไหนจ่ายช้า เราก็ต้องทำเรื่องนี้ให้ง่ายและเร็วที่สุด” — สกอตเล่าให้ฟัง
มันจึงกลายเป็นภาพที่ชัดเจนขึ้นมาว่าคู่แข่งของอินทูอิทไม่ใช่ซอฟต์แวร์บัญชีเจ้าอื่นแต่เป็นการตัดสินใจของเจ้าของธุรกิจที่จะจ้างนักบัญชีมาจัดการเรื่องนี้, ยอมลงทุนเสียเวลาเพิ่มอีกหลายชั่วโมงเพื่อจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง, หรือพยายามสร้างระบบเหล่านี้ขึ้นมาเองด้วยเอ็กเซลล์ไฟล์ นั่นแปลว่าขนาดและศักยภาพของตลาดไม่สามารถถูกประเมินอย่างแม่นยำได้ด้วยการมองจากยอดขายระบบซอฟต์แวร์ทางบัญชีสำหรับธุรกิจ
มุมมองจากคนนอกควิกบุ๊กส์ดูไม่น่าจะประสบความสำเร็จได้เลยเพราะนอกจากจะมีฟีเจอร์น้อยกว่าซอฟต์แวร์คู่แข่งครึ่งหนึ่งแล้ว ควิกบุ๊กส์ยังตั้งราคาสูงกว่าคนอื่นเป็นสองเท่าอีกต่างหาก แต่เพราะควิกบุ๊กส์โฟกัสพลังงานทั้งหมดไปที่การช่วยให้ผู้ใช้จัดการเรื่องบัญชีได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในขณะที่คู่แข่งรายอื่นพยายามอย่างมากที่จะแข่งขันกันสร้างซอฟต์แวร์บัญชีที่ดีที่สุด ควิกบุ๊กส์จึงกลายเป็นเจ้าตลาดในเรื่องนี้ในระดับโลก
บทเรียนที่น่าสนใจในเรื่องนี้คือคนที่เราคิดว่าเป็นคู่แข่งของเรานั้นอาจจะไม่ใช่อะไรที่มองเห็นได้ง่ายและตรงไปตรงมา ไม่ใช่ว่าเราทำซอฟต์แวร์แล้วคู่แข่งของเราคือซอฟต์แวร์ที่ทำเหมือนกับเรา ในกรณีของควิกบุ๊กส์พวกเขาแข่งกับนักบัญชี แข่งกับการทำเอง แข่งกับไมโครซอฟต์ เอ็กเซลล์
ตัวอย่างอื่น? เราคิดว่าแอร์บีเอ็นบี (Airbnb) แข่งขันกับโรงแรม? แต่ไม่ใช่เลยพวกเขาแข่งกับการที่นักเดินทางจะไปพักค้างคืนที่บ้านเพื่อนหรือไม่ก็เลือกที่จะไม่เดินทางไปเที่ยวเลย
เราคิดว่าเน็ทฟลิกซ์ (Netflix) แข่งขันกับคอนเท้นสตรีมมิ่งรายอื่น? ก็ไม่ถูกต้องซะทีเดียว พวกเขาแข่งกับเวลาที่คนนอนหลับต่างหาก
โปรดักท์ เมเนเจอร์เข้าใจภาพธุรกิจของตัวเองดีพอรึยัง? ปัญหา ลูกค้า คู่แข่ง ตลาด และเทรนด์ … งานใหญ่เหมือนกันนะครับ 🧗🏼♂️