ถ้าทำงานบริษัทมานานน่าสังเกตเห็นถึงสิ่งที่แบ่งแยกหัวหน้าที่ดีออกจากหัวหน้าทั่วไปได้ข้อหนึ่งที่ไม่ใช่แค่ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์การทำงาน ความคิดสร้างสรรค์ ความเป็นผู้นำหรืออะไรพวกนั้น แต่มันคือ
“หัวหน้าที่ดีคือคนที่ใช้เวลาอยู่กับลูกน้องตัวเองมากกว่าหัวหน้าของตัวเอง”
เหตุผลที่เป็นแบบนี้เพราะแอนดี้ โกรฟ (Andy Grove) อดีต CEO ของ Intel พูดไว้อย่างน่าสนใจว่า “ผลงานของผู้บริหารวัดได้จากผลงานขององค์กรที่เธอเป็นผู้นำ” เราจึงเชื่อต่อไปอีกว่าการที่จะสร้างองค์กรที่มีประสิทธิภาพการทำงานยอดเยี่ยมเราจำเป็นต้องทุ่มเทในการพัฒนาคนในองค์กรนั้น เมื่อพูดถึงคำว่าพัฒนา ในบริษัททั่วไป (ย้ำว่าทั่วไป) พนักงานส่วนใหญ่ยังมีช่องว่างในการพัฒนาที่กว้างมาก ดังนั้นหัวหน้าที่ดีจะตั้งความคาดหวังและมาตรฐานที่สูงไว้และทุ่มเทความสามารถในการยกระดับลูกน้องในทีมให้ได้ตามนั้น
การที่จะทำให้สิ่งนี้เกิดผลสำเร็จหัวหน้าต้องมีเวลาอยู่กับลูกน้องให้มาก ไม่ใช่เพื่อควบคุมจับตาการทำงาน แต่เพื่อสื่อสารความคาดหวัง เพื่อเป็นพี่เลี้ยงและที่ปรึกษา เพื่อเป็นคนคอยให้ความท้าทายและกำลังใจ ในบางสังคมสิ่งที่สะท้อนออกมาคือการที่เรามักจะเห็นคนที่เป็นหัวหน้าใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการทำงานร่วมกับหัวหน้าของตัวเองในห้องประชุม
ไม่ได้บอกว่าเรื่องนี้ผิดแต่ความสมดุลคือสิ่งสำคัญ ลองนั่งนึกๆดูสิว่าเราจะมีโอกาสพูดคุยกับหัวหน้าเราแค่เฉพาะเวลาเหล่านี้หรือไม่
- เดือนละหนึ่งครั้ง ใช้เวลาครึ่งชั่วโมง
- การประชุมทีมเพื่อติดตามความคืบหน้าของงาน ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง และ
- เมื่อมีปัญหาเรื่องงาน จะตามงาน จะโยนงาน จะเพิ่มงาน
นี่คือความไม่สมดุลที่มองเห็นได้ทั่วไป พนักงานทุกคนไม่ได้เก่งเท่ากัน ไม่ได้รู้เท่ากัน และไม่ได้มีความสามารถโดยรวมเท่ากัน … หัวหน้าที่ดีจะรู้ว่าหน้าที่ของตัวเองคือต้องสร้างคน คนจะสร้างทีมและองค์กรที่แข็งแกร่งได้ ทั้งหมดนี้ต้องเกิดจากการทุ่มเทเวลาให้กับลูกน้องของตัวเองเท่านั้น
ถ้าคุณเป็นหัวหน้า … คุณใช้เวลากับใครมากกว่ากันระหว่างลูกน้องของคุณหรือหัวหน้าของคุณ?