มันมีความแตกต่างอย่างสุดขั้วระหว่างคำว่า “ทางลัด” และ “การทำอะไรบางอย่างให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น”
การลดน้ำหนัก
- ทางลัด : กินยาลดน้ำหนัก อดอาหาร
- เพิ่มประสิทธิภาพ : คุมอาหาร ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
- ทางลัด : จับเข้าคอร์สเข้มข้นติดต่อกันสามเดือน
- เพิ่มประสิทธิภาพ : บังคับใช้ภาษาอังกฤษในทีม อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ ดูทีวีภาคภาษาอังกฤษ อื่นๆ
การสอบ
- ทางลัด : ติวก่อนสอบสองวัน อ่านแต่ข้อสอบเก่า หรือจ้างคนมาสอบแทน
- เพิ่มประสิทธิภาพ : ตั้งใจเรียนมากขึ้น เรียนพิเศษอย่างต่อเนื่อง (ถ้าจำเป็น) เตรียมเวลาอ่านหนังสือก่อนสอบ
การเขียนโค๊ด
- ทางลัด : Copy & Paste & Rename
- เพิ่มประสิทธิภาพ : การออกแบบที่ดี ศึกษาทฤษฎีและ Best-Practice
การปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน
- ทางลัด : จ้างที่ปรึกษาหรือเทรนเนอร์ … เชื่อทุกอย่างที่เขาพูดและสั่งให้ทำ
- เพิ่มประสิทธิภาพ : ศึกษาเอง ทดลองและวัดผลอย่างต่อเนื่อง
นี่แค่ตัวอย่างง่ายๆที่เราเห็นกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน … ใครหรือทีมไหนที่สนุกสนานกับการใช้ทางลัดอาจจะไม่รู้ตัวว่ากำลังเดินผ่านเส้นทางที่พาไปสู่ความเสื่อม
- เมื่อเราหยุดยา : โยโย่
- เมื่อเราหยุดใช้ภาษาอังกฤษ : ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง
- เมื่อเราต้องทำข้อสอบตัวด้วยเอง : ตก
- เมื่อเราต้องแก้โค๊ด : แก้ไม่ได้ เละตุ้มเป๊ะไปหมดแล้ว
- เมื่อที่ปรึกษาเดินจากไป : ทุกอย่างสลายหายไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ถ้าอยาก “เติบโตอย่างแท้จริง” หยุดมองหาทางลัดแล้วจงเชื่อในความอุตสาหะ ไม่มีทางไหนที่จะทำให้เราได้ผลลัพธ์ที่ดีและยั่งยืนด้วยการไม่ลงทุนลงแรง
เพราะชื่อมันก็บอกอยู่ในตัวแล้วว่า “Shortcut = Short-Term” / อย่าเชื่อในทางลัดเพราะสิ่งสำคัญคือเป้าหมายระยะไกลและความยั่งยืน