ความพยายามในการลด ละ เลิก นิสัยที่หนึ่งที่เราไม่ค่อยจะปลื้มกับตัวเองเท่าไรนั้นมันจะล้มเหลวเสมอ
ลด ละ เลิก ในที่นี้คือความพยายามในการหยุดกิจกรรมเหล่านั้นด้วยการหักห้ามใจ เช่น เลิกดูทีวี เลิกเล่นโซเชี่ยล เลิกกินของทอด อะไรต่างๆ บางครั้งเหตุการณ์มักเป็นแบบนี้
- ยกทีวีออกจากห้องนอน … เราเลิกดูทีวี แต่กลับมาหยิบโทรศัพท์ท่องโลกโซเชี่ยล
- ลบแอพเฟสบุ๊กทิ้ง … เรากลับมาเปิดยูทูปแทน
- งดของทอด … เราซัดขนมหวานทุกมื้อเป็นการชดเชย
คำถามที่น่าสนใจคือ เมื่อเราเลิกนิสัยแบบแรกแล้ว เราเอาเวลาที่ได้คืนมานั้นไปทำอะไร?
แนวทางที่มีโอกาสจะประสบความสำเร็จมากกว่า (จากประสบการณ์ส่วนตัวของผมเอง) คือเราไม่จำเป็นต้องพยายามหักห้ามใจกับนิสัยที่หนึ่ง แต่เราต้องสร้างนิสัยที่สองขึ้นมา นิสัยที่เราอยากเห็นตัวเองเป็นแบบนั้น ยกตัวอย่าง
เมื่อเราเริ่มต้นสร้างนิสัยการอ่านอย่างสม่ำเสมอ ทำทุกวัน อย่างอดทน และมุ่งมั่น เมื่อนิสัยนี้เริ่มก่อตัวขึ้นจนเป็นอัตโนมัติในสมองของเรา น้ำหนักในการตัดสินใจว่าตอนนี้เราจะเลือกทำอะไรจะเพิ่มขึ้น แบบนี้
ระหว่างอยู่บนรถไฟฟ้า หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ระหว่างแอพโซเชี่ยลกับแอพอ่านหนังสือ เราจะเลือกเปิดอะไร? ในวินาทีนั้นเรามีตัวเลือกสองทางระหว่างนิสัยเดิมกับนิสัยใหม่ และถ้าเราอินกับเรื่องการอ่านจริงๆ เราจะเลือกเปิดแอพอ่านหนังสือก่อน
เป้าหมายไม่ใช่การเลิกความโซเชี่ยลออกจากชีวิต เป้าหมายคือการสร้างความสมดุลของชีวิตตามความรู้สึกของตัวเอง จากเดิมโซเชี่ยล 80% ตอนนี้กลายเป็นโซเชี่ยล 50% อ่าน 40% อยู่เฉยๆ 10%
ถ้าเราแฮปปี้แบบนี้ … ก็แฮปปี้ไง ง่ายๆแค่นั้นเอง ไม่ต้องดีท๊อกซ์แบบลดให้โซเชี่ยลเหลือ 0% มันไม่ยั่งยืน
ผ่านมาสองเดือน เราเริ่มอินกับการอ่านมากขึ้น จนตอนนี้โซเชี่ยล 20% อ่าน 60% แบบนี้ดีมั้ย? คำตอบก็อยู่กับว่าตัวเราเองแฮปปี้ขึ้นกว่าเดิมมั้ยหละ?
การลบนิสัยเดิมไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งการหักดิบนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ ทางเลือกที่ดีกว่าคือการสร้างนิสัยที่สองที่เราคิดว่าจะดีกับตัวเองขึ้นมา เพราะในเวลา 24 ชั่วโมงต่อวันที่ทุกคนมีนั้น เราต้องตัดสินใจเลือกว่าจะใช้มันไปกับเรื่องอะไรบ้าง เวลาที่เราได้คืนมาจากโซเชี่ยลวันละ 4 ชั่วโมงนั้น … เราเอามันไปใช้กับอะไร
ถ้าไม่มีกิจกรรมรองรับ … ไม่นาน 4 ชั่วโมงนั้นก็จะกลับไปหาโซเชี่ยลอยู่ดี
อย่าพยายามลบนิสัยที่หนึ่ง จงสร้างนิสัยที่สองขึ้นมาแทน 🙋🏻♂️