เราพูดกันบ่อย
“แบบนี้เมคเซ้นส์มั้ย?” หรือ
“เรื่องนี้แม่งไม่เมคเซ้นส์เลยหวะ”
คำนี้ถูกใช้เป็นบรรทัดฐานสำคัญในการพิจารณาความเหมาะสมของเรื่องต่างๆ … แทบทุกเรื่อง
เมื่อเร็วๆนี้ตัวผมเองก็ประสบพบเจอเรื่องอะไรแปลกๆหลายเรื่อง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกระบวนการของหน่วยงานราชการไทย)
- กระบวนการที่ควรจะจบแต่ไม่จบ เช่น เมื่อได้ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) มาแล้ว คนต่างชาติรายนี้ยังต้องไปยื่นเรื่องขอวีซ่าเพื่ออยู่ในประเทศไทยอีก ยื่นเรื่องไม่เท่าไร … ต้องส่งเอกสารเหมือนที่เคยส่งไปตอนขอใบอนุญาตทำงาน — เมคเซ้นส์มั้ย?
- ขั้นตอนที่ง่ายแต่กลายเป็นยาก เช่น การยื่นขอใบรับรองที่เพียงแค่สั่งปริ้นท์ออกมาจากในระบบแต่กลายเป็นว่าเราต้องกลับมารับในอีก 3 วันให้หลังเท่านั้น — เมคเซ้นส์มั้ย?
- กฎเกณฑ์ที่ออกแบบมาโดยไม่ยึดหลักความเป็นจริง เช่น ในกรณีวีซ่านักเรียน ตามกฎคือนักเรียนต่างชาติคนนี้ต้องอัปเปหิตัวเองออกจากประเทศไปภายในหนึ่งวันหลังจากการเรียนวันสุดท้ายจบลง — เมคเซ้นส์มั้ย?
- กฎเกณฑ์ที่แข็งกร้าวเกินจำเป็น เช่น “ไม่ได้นะ ต้องมีลายเซ็นกรรมการบริษัททุกคน จะอยู่ต่างประเทศก็ต้องไปล่ามาให้ได้” — เมคเซ้นส์มั้ย?
ตัวอย่าง่ายๆที่ทำให้เราฉุกคิดว่า “เฮ้ เรื่องนี้มันเมคเซ้นส์มั้ย?” แล้วมันก็จะยืดยาวไปที่
- โฮ้ กระบวนการนี้เมคเซ้นส์มั้ย?
- เฮ้อ ระบบนี้มันเมคเซ้นส์มั้ย?
- เฮ้ย หน่วยงานนี้เมคเซ้นส์มั้ย?
- เอ่อ องค์กรนี้มันเมคเซ้นส์มั้ย?
- อืม ประเทศนี้มันเมคเซ้นส์มั้ย?
มันไปได้ไกลขนาดนั้นด้วยคำนี้คำเดียว คำนี้สามารถบ่งบอกอดีตและชี้อนาคตของอะไรต่างๆได้มากมาย ถ้าสิ่งที่เราทำอยู่ไม่เมคเซ้นส์ ถ้าแอพที่เราทำอยู่ไม่เมคเซ้นส์ อนาคตคงมืดมนมากๆ 😒