ผมนั่งนึกย้อนไปถึงการแข่งขันสนุ๊กเกอร์รอบชิงชนะเลิศ ถึงแม้ผู้แข่งขันที่ผมเอาใจช่วยจะแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย แต่ผมก็ได้เห็นเรื่องราวที่น่าประทับใจในระหว่างการมอบถ้วยรางวัล
การสัมภาษณ์เริ่มขึ้นจากฝ่ายผู้แพ้ และเขากล่าวยกย่องผู้ชนะอย่างเต็มใจเป็นอย่างแรก
“วันนี้แจ๊คเล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบมาก เขามีสัปดาห์การแข่งขันที่ดีจริงๆ”
และเมื่อถึงคิวผู้ชนะ เขาก็ทำแบบเดียวกัน
“ที่ผมได้โอกาสวันนี้ก็เพราะจอห์นเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานต่างหาก ถ้าเขาอยู่ในฟอร์มที่ดีตามมาตรฐาน ผมคงไม่ได้สัมผัสถ้วยรางวัลในวันนี้หรอกครับ”
ทั้งคู่แสดงน้ำใจนักกีฬาที่น่าชื่นชมออกมา ทั้งที่ระหว่างการแข่งขันก็ห้ำหั่นกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
กีฬากับธุรกิจเหมือนหรือต่างกัน?
ทำไมเราแทบไม่เคยได้ยินการออกปากชื่นชมคู่แข่งจากอีกฝ่าย?
ทำไมทุกอย่างจึงเป็นเรื่องของตัวฉันๆและตัวฉันคนเดียว?
ไม่มีทางที่เราจะเป็นผู้ชนะได้ทุกเรื่องในทุกการแข่งขัน บางครั้งเราชนะ บางครั้งเราแพ้ บางครั้งเรานำหน้า บางครั้งเราตามหลัง บางครั้งเราโดดเด่น และบางเรื่องเราด้อยกว่า
“อ๋อครับ ตอนนี้ผมยังทำโปรดักท์ตัวนี้ไม่เสร็จครับ ต้องใช้เวลาอีกสักสามเดือน ถ้าคุณบอสรีบจริงๆลองติดต่อไปบริษัทนี้ดูมั้ยครับ ผมได้ยินว่าเขาทำโปรดักท์แบบนี้อยู่เหมือนกัน ไม่แน่ใจว่าเสร็จเรียบร้อยรึยัง ลองดูนะครับ” — มันจะเป็นยังไงถ้าเราแนะนำคู่แข่งให้คนที่น่าจะเป็นลูกค้าของเรา
“ขอเรียนตามตรงกับคุณแพรวเลยนะครับ โจทย์นี้ยากไปสำหรับผมครับ ผมยังไม่พร้อมทำ แต่ได้ยินมาว่าบริษัทนี้เขาวิจัยเรื่องนี้อยู่ ลองติดต่อไปก่อนมั้ยครับ” — มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราปฏิเสธงานและยื่นโอกาสให้คู่แข่ง
“ร้านผมมีแต่กาแฟดำที่ชงจากเมล็ดพันธุ์ชั้นดีทั่วโลกครับ ถ้าคุณมินอยากได้คาราเมลอร่อยๆผมแนะนำร้านที่อยู่ชั้นสองเลยครับ ผมกินแล้วยังชอบเลย 😂” — มันจะเกิดปัญหามั้ยถ้าเราทั้งแนะนำและชื่นชมคู่แข่งที่เปิดร้านอยู่ใกล้ๆกัน
หลายคนอาจจะคิดว่าเราโง่และบ้าที่ทำแบบนั้น ที่โยนเงินทิ้งไม่พอกลับยื่นโอกาสการขายให้คู่แข่งโดยตรงอีกต่างหาก
และน้อยคนคิดว่ามันคือเรื่องที่ฉลาดหลักแหลม มันคือช่องทางการแสดงความจริงใจและมองผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นหลัก ถ้าเราไม่ดีและไม่พร้อม ทำไมถึงดึงและรั้งพวกเขาไว้?
ถ้าเรามีเพื่อนสักคน เราอยากได้รับคำแนะนำที่จริงใจจากเขามั้ย? นั่นแหละประเด็น … เมื่อเราแสดงความจริงใจ สิ่งที่เรา (อาจจะ) ได้กลับคืนมาคือความเชื่อใจ ฉันเชื่อใจเธอเพราะเธอไม่เห็นแก่ตัว ฉันเชื่อใจเธอเพราะเธอพูดความจริง ฉันเชื่อใจเธอเพราะเธอช่วยฉันอย่างไม่หวังผลตอบแทน
ในโลกทุกวันนี้จะมีอะไรมีค่าไปกว่าความเชื่อใจ? ไม่มี … เงิน รายได้ ชื่อเสียงไม่เทียบเท่าความเชื่อใจ ความเชื่อใจคือขุมทรัพย์ที่เราจะเก็บกินได้ในระยะยาว
ความเชื่อใจซื้อไม่ได้ด้วยเงิน ความเชื่อใจถูกสร้างจากการปฏิบัติตัวอย่างจริงใจต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน … ความเชื่อใจคือสิ่งที่ทุกบริษัทต้องให้ความสำคัญอย่างที่สุด
และเชื่อเถอะ … ว่าลูกค้าเหล่านั้นจะกลับมาหาเราในไม่ช้า เมื่อพวกเขารู้ว่าเราคือคนที่เขาเชื่อใจได้มากที่สุด 👆🏼