หลายครั้งเราก็พึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อบรรลุเป้าหมาย หลายครั้งเราต้องการโชคและดวงเพื่อดำเนินการบางอย่างให้ลุลวงไปด้วยดี
เน็ทฟลิกซ์กับโปรดักท์และกลยุทธ์ของพวกเค้าถล่มบล็อกบัสเตอร์ราบคาบ
แอปเปิ้ลด้วยไอโฟนและแอพสโตร์ลบล้างรีเสิร์จ อิน โมชั่น (ริม) เจ้าของโทรศัพท์แบล็กเบอรี่จนหายไปจากแผนที่โลก
แคนอนกับเทคโนโลยีกล้องถ่ายรูปดิจิทัลเบียดโกดักเจ้าพ่อของวงการในตอนนั้นตกขอบแบบแทบไม่เหลือที่ยืน
แน่นอนว่าเน็ทฟลิกซ์ แอปเปิ้ล และแคนอนไม่ฟลุ๊ก ไม่มั่ว และไม่ใช่แค่นักฉวยโอกาส พวกเค้าวางแผนและทำสิ่งที่สุดยอดกับโปรดักท์และกลยุทธ์ทางธุรกิจของตัวเอง แต่สังเกตอะไรอย่างหนึ่งมั้ย? ปัจจัยที่ส่งผลอย่างยิ่งที่ทำให้แผนการของบริษัทเหล่านี้สัมฤทธิ์ผลเป็นทวีคูณคือการที่คู่แข่งคนสำคัญนั้นละเลยและเชื่องช้าต่อการตอบสนองความเปลี่ยนแปลงของโลก
เรารู้กันอยู่แล้วว่ารีด เฮสติ้ง ผู้ก่อตั้งเน็ทฟลิกซ์เคยเดินไปขอทำความร่วมมือกับบล็อกบัสเตอร์ในการทำธุรกิจวิดีโอออนดีมานด์ บล็อกบัสเตอร์ไม่สนใจ
เรารู้กันอยู่แล้วว่าไอโฟนเพิ่งตั้งไข่ในตอนที่แบล็กเบอรี่ครองตลาดส่วนใหญ่ และผู้บริหารก็มัวสนใจแต่การปกป้องโปรดักท์เดิมกับตลาดเดิม
เราก็รู้กันดีอีกว่าโกดักคือผู้คิดค้นกล้องดิจิทัลเป็นคนแรก และเลือกที่จะขายฟิลม์ต่อไปเพราะรายได้หลักของบริษัทมันอยู่ตรงนั้น
นั่นแหละที่ผมว่าเราก็ต้องพึ่งโชคดวงกันบ้าง เมื่อเราวางแผนมาดีบวกกับความเฉื่อยชาของคู่แข่งเราจะยิ่งมีโอกาสที่ดีขึ้นเหมือน 🎬 เน็ทฟลิกซ์ 📱 แอปเปิ้ล และ 📷 แคนอน
นั่นแปลว่าใหญ่แค่ไหนก็ล้มได้ รวยแค่ไหนก็จบได้ … เรามองเห็นโอกาสแบบนี้กับกลุ่มอุตสาหกรรมที่เรากำลังแข่งขันอยู่มั้ย? เคล็ดลับง่ายๆ ยิ่งเก่ายิ่งดี ยิ่งแก่ยิ่งเปลี่ยนยาก ยิ่งขนาดใหญ่ยิ่งช่องโหว่เยอะ เราหาคู่แข่งแบบนี้ให้เจอและไม่ต้องไปกลัวพวกเขาให้มากเกินไปครับ เราจะชนะพวกเขาได้ในเกมส์ที่เรากำหนดเอง