ถ้าเราจะได้เงินจากการตอบแทนที่จับต้องได้ แบบนี้ไม่ค่อยน่ากังวล เช่น
เราได้เงินจากการขายสินค้าที่เราผลิต
เราได้เงินจากการแลกเปลี่ยนกับบริการที่เราให้
เราได้เงินจากเป็นสิ่งตอบแทนจากเวลาที่เราเสียไป
เราได้เงินจากแรงงานสุจริตที่เราแลกกลับไป
แบบนี้โอเค แบบนี้พอไหว
แต่ถ้าเราได้เงินมาจาก “คำมั่นสัญญาแห่งอนาคต” อันนี้มีความเสี่ยง เช่น
เราได้เงินลงทุนในโปรเจกต์จากคนภายนอก
เราขายหุ้นแลกกับตัวเลขรายได้และการเติบโตที่เป็นเพียงการคาดคะเน
เรารับเงินมาเพื่อสร้างบางอย่างที่ยังไม่มีขอบเขตชัดเจนเป็นการตอบแทนกลับไป
กับกรณีเหล่านี้ … ถ้าเลือกได้ … อย่ารับ
เพราะเงินมาพร้อมความคาดหวัง — ผมให้เงินคุณ 100 บาท แต่ผมหวังผลตอบแทน 1000 บาทภายในสองปี
เพราะเงินมาความความกดดัน — ผ่านไปครึ่งปีแล้ว ทำไมเงินของผมยังไม่งอกเงย?
และที่น่าตลกคือ เงินมาพร้อมการบังคับให้ต้องใช้เงิน — ตอนไม่มีเงินเราทำอะไรเองได้หลายอย่าง แต่พอมีเงินขึ้นมาหน่อย … หลายเรื่องเราต้องจ้างคนอื่นมาช่วย … ทำไม? ก็เพราะเงินมาพร้อมกับแรงกดดันให้ต้องใช้เงิน
มุมมองระยะสั้นคือรับเงินมาก่อนเพื่อทำตามคำมั่นสัญญาในภายหลัง
แต่มุมมองระยะยาวคือ ทำสิ่งที่เราให้สัญญาให้มันเกิดขึ้นมาจริงให้ได้เสียก่อน แล้วจึงค่อยรับเงิน เพราะยิ่งรับรับเงินช้าเท่าไร อำนาจและอิสรภาพก็จะอยู่ในมือเรานานขึ้นเท่านั้น
จงอยู่ให้รอดก่อนที่คิดจะรับเงินร้อนๆเข้ามา