สมมติเราอยากสร้างบริษัทขึ้นมาด้วยความพยายามที่จะสร้างและขายสินค้าที่คิดค้นและผลิตขึ้นมาเอง
ในช่วงแรก มันยากมากๆที่จะสร้างสินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้นขึ้นมา มันควรจะเป็นอะไร แก้ปัญหาอะไร เทคโนโลยีอะไร ทำเพื่อใคร ใครควรจะช่วยเราทำ อีกมากมาย
บางครั้งบางหน เราก้าวไม่ข้ามขั้นตอนนี้ แต่ถ้าเราผ่านมาได้
ในช่วงกลาง โปรดักท์ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เมื่อเราเห็นภาพชัดเจนขึ้น เข้าใจปัญหาดีขึ้น มีวิสัยทัศน์ที่ได้รับการขัดเกลามาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เรามีลูกค้ากลุ่มแรกที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ เรามีทีมงานที่เราฝากชีวิตไว้ได้
แต่ความยากมันกลับไปอยู่ที่เรื่องการขาย ใช่ เราขายได้ … บ้าง แต่จะทำอย่างไรถึงจะขายให้ได้มากกว่านี้ จะเพื่อความอยู่รอด จะเพื่อความรุ่งเรือง หรือจะเป็นสนองความต้องการอะไรสักอย่างส่วนตัว เราอยากขายให้ได้มากกว่านี้ แต่มันยากเหลือเกิน
หลายครั้งหลายหน เราก้าวไม่ข้ามจุดนี้ เพราะกลไกตลาดนั้นแข็งแกร่งเกินกว่าเราจะฝ่าทะลวงออกไปได้ แต่ถ้าเรายังผ่านมันมาได้อีก
ในช่วงท้าย … ทีนี้ความยากจะกลับมาที่โปรดักท์อีกครั้ง เพราะสิ่งที่เราทำไว้ตั้งแต่ช่วงแรกนั้นมันแค่พอใช้ได้ มันเป็นแค่ความพยายามครั้งแรกที่จะทดลองแนวคิด แต่สำหรับจังหวะนี้ … โปรดักท์มันต้องดีกว่าเดิมมากเพื่อจะทำให้ธุรกิจของเราไปต่อได้อย่างมั่นคง
โปรดักท์ที่แข็งแรงจะช่วยให้เราขายได้มากขึ้นเร็วขึ้นคล่องตัวขึ้นรวมไปถึงดูแลลูกค้าได้ทั่วถึงและดีที่สุด … โดยไม่ต้องเพิ่มต้นทุนอย่างเป็นเท่าทวีคูณ
จังหวะนี้เราต้องกลับมาลงลึกในรายละเอียดกับโปรดักท์อย่างเอาเป็นเอาตาย บางส่วนต้องปรับ บางส่วนต้องโดนกำจัด และบางส่วนต้องทำใหม่ เพื่ออนาคตระยะยาว
เรายังสามารถจะเป็นผู้นำในเฟสนี้ได้อยู่มั้ย? ทีมงานของเรามีความพร้อมที่จะสร้างโปรดักท์เวอร์ชั่นใหม่ที่ดีกว่าเดิมเป็นเท่าทวีคูณได้หรือไม่? คำถามสำคัญที่เราต้องตอบให้ได้
ในโลกแห่งเทคโนโลยี … ถ้าเราก้าวมาได้ถึงปัญหาขั้นที่สามนี้ถือว่าโชคดีและพิสูจน์ตัวเองมาพอสมควรแล้ว หน้าที่ของเราคือไปต่อ ในโหมดใหม่ ด้วยแนวคิดที่ต้องปรับเปลี่ยนไปจากวันแรก และด้วยการเปิดใจกว้างยอมรับในสิ่งที่เราไม่ถนัดและกล้าที่จะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากคนที่เก่งกว่าเราในเรื่องนั้นๆ
โปรดักท์ การขาย … สุดท้ายมันจะกลับมาหาโปรดักท์อีกครั้ง