เมื่อเราคิดว่าทำไม่ได้หรอก หลายครั้งจะลงเอยว่าเราทำได้
เหตุการณ์แรกไม่เคยง่าย ไม่อย่างนั้นเราคงไม่คิดว่าเราทำไม่ได้ เหตุผลเดียวที่มันจบลงด้วยดีก็เพราะถึงแม้ในใจจะท้อแต่เราก็ไม่หยุดเดินไปข้างหน้า
ถึงแม้จะมีล้มลุกคลุกคลานบ้าง หยุดพักบ้าง แต่โดยรวมแล้ว … เรายังคงเดินไปเรื่อยๆ
มันเป็นความน่าอัศจรรย์ที่ยิ่งทำเรายิ่งมั่นใจในตัวเองมากขึ้น มันเหมือนเป็นการเดินขึ้นภูเขา จากตอนแรกที่ยืนอยู่ตีนเขา โอ้โห สูงขนาดนั้น จะปีนไหวได้ยังไง
แต่ผ่านมาหนึ่งในสามของขาขึ้น เรามั่นใจมากขึ้น … เมื่อเรายืนบนยอดเขาอย่างภูมิใจ เรากลับไม่รู้สึกเลยว่า “โอ้โห ลึกขนาดนั้น เราจะลงจากเขาได้ยังไงเนี่ยะ”
เพราะขาขึ้นคือยาก ขาลงคือง่าย คำถามคือจะมีสักกี่คนที่เดินขึ้นอย่างต่อเนื่องถึงแม้ในใจจะหมดแรงไปแล้ว
ขาขึ้นมีไว้สำหรับผู้บุกเบิก
ขาขึ้นคือการตั้งเป้าหมาย
ขาขึ้นคือการเสาะหาแนวทาง
ขาขึ้นคือการเลือกว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร
ขาขึ้นคือการลองผิดลองถูก
ขาขึ้นคือความล้มเหลวหลายครั้ง
ขาขึ้นคือการพิสูจน์แรงใจ
ขาขึ้นคือหลักฐานของการไม่ยอมแพ้
ขาขึ้นคือการประสบความสำเร็จเล็กๆครั้งแรก
ถ้าเราผ่านตรงนี้มาได้ … ขาลงก็สบาย
ขาลงคือการทำตามแบบแผนเดิม (ที่ขาขึ้นคิดและออกแบบมาให้แล้ว)
ขาลงคือการทำซ้ำตามคู่มือ (ที่ขาขึ้นเขียนทิ้งไว้ให้เป็นตัวอย่าง)
ขาลงคือความรู้สึกสบายใจที่เห็นผลลัพธ์ที่หวังไว้อย่างต่อเนื่อง
การทำโปรดักท์มีขาขึ้นและขาลง … บางคนทุ่มเททุกอย่างเพื่อปีนให้ถึงยอดเขา คิดแล้วคิดออก ลองแล้วลองเล่า ล้มเหลวนับสิบนับร้อย
วงจรชีวิตของโปรดักท์นั้นน่าสนใจ … ตอนนี้เราอยู่ขาขึ้นหรือขาลง
ถ้ายังขึ้นไม่สุดก็ต้องไปต่อ อย่าเพิ่งถอดใจ … ท้อใจได้แต่ห้ามหยุด