ความรู้สึกแรกที่เรามีต่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นชี้นำทิศทางการตัดสินใจของเราได้มากอย่างคาดไม่ถึง
เพราะทุกอย่างมีขั้วบวกและลบ ถ้าเราถูกชะตากับสิ่งนี้เราจะมองบวก ถ้าเราไม่ชอบเราจะมองลบ
- คนนี้พื้นฐานดีนะ (บวก) แต่ไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานเลย (ลบ)
- ธุรกิจนี้กำลังขึ้นเลย (บวก) แต่ต้องใช้เวลาปิดการขายนานไปหน่อย (ลบ)
- แอปนี้ดูมีอนาคตมาก (บวก) แต่ตอนนี้มันยังขาดฟีเจอร์อีกเยอะ (ลบ)
- ทีมนี้ดูแข็งแกร่งจัง (บวก) แต่หลายคนยังเป็นแค่สมาชิกพาร์ทไทม์ (ลบ)
- บริษัทนี้น่าจะไปได้อีกไกล (บวก) แต่บัญชียังติดลบอยู่นะ (ลบ)
- โมเดลนี้ไม่ยาก (บวก) แต่ความแม่นยำน่าจะไม่สูงมาก (ลบ)
- ลูกค้ารายนี้ทำงานเร็วดีมาก (บวก) แต่ดูหลงตัวเองอย่างสูงสุดเลย (ลบ)
เสี้ยววินาที (หรือไม่กี่วินาที) ที่อีกฝ่ายได้สัมผัสกับตัวเรา ไม่ว่าจะตัวต่อตัว โทรศัพท์ แชท หรืออีเมล พวกเขาจะสรุปได้เลยว่า “ฉันจะโฟกัสที่ขั้วบวกหรือขั้วลบของเธอ”
ถ้าเรารู้สึกว่าคนนี้ใช้ได้เลย … เราจะโฟกัสไปว่าบริษัทของเขาดีมีอนาคต ถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่ทีกำไรแต่ถ้าวางแผนดีๆก็ไม่ยากเกินความสามารถ … พร้อมจะลงทุน
ถ้าเรารู้สึกว่าคนนี้ดูหลุกหลิกไม่น่าไว้ใจ … เราจะลืมสถาบันการศึกษาและเกรดเฉลี่ยไปทันที เราจะมองเห็นแต่ความไร้ประสบการณ์ของเด็กคนนี้
ลำเอียง? แน่นอน ใครบ้างไม่ลำเอียงละ
จะบวกหรือลบ … เรามีเวลาไม่กี่วินาทีที่จะสร้างความรู้สึกนั้นให้เกิดขึ้นกับอีกฝ่าย เพราะคนเราเปลี่ยนใจยาก ความประทับใจแรกพบนั้นมีจริง
มันไม่ใช่โชคหรือดวง มันคือการฝึกฝน มันคือการปลูกฝัง มันคือการเตรียมตัว เราเป็นคนขั้วบวกได้ถ้าเราอยากเป็น