เราอยู่ในโลกแห่งความต้องการที่ไม่มีสิ้นสุดหรือไม่? เรากำลังคาดหวังและยกระดับความคาดหวังอย่างไม่สมดุลหรือไม่?
- “ผมอยากได้ยอดขายเพิ่มขึ้นอีก 200 ล้าน”
- “ผมอยากให้โปรเจกต์นี้เสร็จเร็วขึ้นกว่าเดิมหนึ่งเดือนนะ”
เมื่อความคาดหวังครั้งนี้ถูกทำให้เป็นจริง ก็จะมีคนมายกระดับให้มันสูงขึ้นไปอีกอย่างก้าวกระโดด จากยอดขาย 200 ล้านจะเป็น 500 ล้าน และจากโปรเจกต์ที่เสร็จเร็วขึ้นหนึ่งเดือนจะเป็นสองเดือน
เราไม่ได้กำลังพูดว่าในระยะยาวการยกระดับความคาดหวังเป็นสิ่งไม่ควรทำ แต่การทำโดยไม่เข้าใจ ไม่มองพื้นฐานของความยั่งยืนเป็นองค์ประกอบด้วยจะเป็นอันตรายเพราะความคาดหวังมักจะนำมาซึ่งความผิดหวัง ถ้าเราหลับหูหลับตายกระดับมันขึ้นไปเรื่อย แม้แต่ซุปเปอร์แมนก็จะทำให้เราผิดหวังซักวันหนึ่ง
ถ้าเราอยู่ในฐานะที่กำหนดความคาดหวังได้ ให้ใส่ใจและพยายามทำความเข้าใจกับกระบวนการที่จะได้มาซึ่งความคาดหวังของเรา เราพร้อมจะเพิ่มยอดขายอีก 200 ล้านแล้วหรือไม่ การทำโปรเจกต์ให้เสร็จเร็วขึ้นหนึ่งเดือนต้องแลกมาด้วยอะไร … ทั้งหมดนี้มันยั่งยืนหรือไม่
ถ้าเราอยู่ในฐานะที่กำหนดความคาดหวังได้ ให้รีเซ็ทความคาดหวังเหล่านั้นบ่อยๆ อย่าคิดแบบรวบหัวรวบหางว่าปีนี้ขายได้ 200 ล้านปีหน้าต้องได้ 500 ล้าน … ตัวเลขเป็นแค่ตัวเปรียบเทียบ ตัวชี้นำ ไม่ใช่มาตรฐาน ไม่ใช่ระดับความคาดหวังขั้นต่ำที่ต้องถูกยกระดับขึ้นไปแบบไม่สมดุล
ถ้าเราอยู่ในฐานะที่กำหนดความคาดหวังได้ อย่าคิดว่าลูกทีมของเราเป็นซุปเปอร์แมน ทุกคนเป็นมนุษย์ที่มีโอกาสทำผิดพลาดได้ด้วยกันทั้งนั้น แม้แต่ตัวเราเอง 🦸🏻