ข้อได้เปรียบทางธุรกิจของเราคืออะไร? — คำถามที่ได้ยินบ่อย
ความยืดหยุ่น
ยืดหยุ่นคือการไม่ถูกบีบบังคับให้ต้องทำอะไรหรือไม่ทำอะไร ยืดหยุ่นนำมาความสามารถในการกำหนดเส้นทางเดินของตัวเองได้ ยืดหยุ่นช่วยสร้างความอิสระทั้งในทางความคิดและการปฏิบัติ
ความยืดหยุ่นไม่ใช่สิ่งที่ทุกบริษัทมี … ความยืดหยุ่นคือสิ่งที่ต้องลงทุนถึงจะได้มา
คำถามคือรากของเราลึกแค่ไหน?
คำว่าลึกแปลว่าเราทำอะไรด้วยตัวเองมากแค่ไหน? คำตอบจะช่วยเปิดภาพให้เห็นว่าเราต้องพึ่งพาคนอื่นมากแค่ไหน ยิ่งมากยิ่งเสี่ยง
ตรงไหนที่เราทำเองได้เราควรทำ ตรงไหนที่เรายังทำเองไม่ได้ … เราก็ควรคิดจะทำมันอยู่ดี
ถ้าเราเป็นบริษัทที่ซื้อซอฟต์แวร์สำเร็จรูปมาเพื่อขายต่อ — เป็นธุรกิจที่ทำเงินได้ดีแต่มันไม่มีความยืดหยุ่นเพราะเราผูกตัวเองติดกับซอฟต์แวร์ตัวนั้น
ถ้าเราเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่พัฒนาโปรดักท์ขึ้นมาด้วยตัวเองให้มากที่สุด เวปตัวเอง แอปตัวเอง อัลกอริธึมของตัวเอง เราเลือกที่จะเหนื่อยกว่าคนอื่นด้วยการไม่ซื้อของสำเร็จรูปแต่ลงมือทำตัวด้วยเอง รากของเราจะลึกกว่า แผ่กว้างกว่า และโอกาสที่จะเติบโตก็จะมีมากกว่า
เมื่อเราได้ยินฟีดแบ็กจากลูกค้ามาแล้วเราอยากปรับแก้ … ได้เลย
เมื่อเราได้ไอเดียบรรเจิดขึ้นมาแล้วเราอยากต่อยอด … จัดไป
เมื่อเราเห็นคู่แข่งกำลังโฟกัสในสิ่งเดียวกับเราแล้วเราอยากฉีกหนีด้วยโปรดักท์ตัวใหม่ … ไม่มีปัญหา
เมื่อเราควบคุมหลายเรื่องที่สำคัญด้วยตัวเราเอง เราจะสร้างอำนาจต่อรองที่ช่วยให้เราต่อสู้กับอุปสรรคข้างหน้าได้เยอะ มันจะช่วยให้เรานอนหลับสนิทขึ้นนิดนึงตรงที่เราจะไม่ต้องแบกภาระกับคำว่า “ไม่ได้” ไว้บนบ่า
มันจะ “ได้” เสมอ ถ้าเราอยากจะทำขึ้นมาจริงๆ
ข้อเดียวที่ต้องจำให้ขึ้นใจคือ ถ้ามันได้มาง่ายมันอาจจะไม่ยืดหยุ่น ถ้ามันได้มาเร็วมันอาจจะไม่หยั่งลึก
ความยืดหยุ่นสร้างได้แต่ต้องแลกมาซึ่งหยาดเหงื่อแรงกายและแรงใจ
ความยืดหยุ่นสร้างได้แต่ต้องทำตั้งแต่เนิ่นๆ … ยิ่งช้ายิ่งยาก ในเมื่อถึงจุดหนึ่งเราจะไม่มีทางได้สัมผัสคำนี้อีกแล้วเมื่อหลายอย่างกลายเป็นความตายตัว … ไม่ใช่ยืดหยุ่น