บางครั้งการคุยกับผู้รู้ก็ให้แนวคิดที่ดี แต่บางครั้งก็สร้างความสับสนได้มากเหมือนกัน
กรณีแรก — คุยกับลูกค้าผู้รู้กระบวนการทำงานของตัวเองดี … ด้วยความหวังว่าจะได้ฟีดแบ็กเรื่องระบบที่เรานำไปเสนอ … เรากลับได้คำถามล้ำค่ากลับมาว่า “คุณทำแบบนี้ได้มั้ยหละ?”
บางครั้งก็ดีเพราะเราได้เห็นภาพอีกมุมหนึ่ง แต่อีกหลายครั้งก็แย่เพราะเราจะคิดในใจว่า … โอ้โหพี่ครับ มันคนละทิศกับที่ผมกำลังเดินเลย
กรณีที่สอง — คุยกับนักลงทุนผู้รู้ตลาดและอุตสาหกรรมรอบด้าน … ด้วยความหวังว่าจะได้รับโอกาสในการร่วมทุนในโปรเจกต์ที่เรากำลังปั้นอยู่ … เรากลับได้ข้อเสนอแบบกระแทกใจแรงๆว่า “ผมมีร้านเสื้อผ้าอยู่ 1,000 กว่าแห่ง คุณทำอะไรให้ผมได้บ้าง?”
บางครั้งก็ดีเพราะเราได้เปิดหูเปิดตาในโอกาสใหม่ๆ แต่อีกหลายครั้งก็แย่เพราะเราก็จะบอกตัวเองดังๆว่า … อ่าวพี่ครับ แล้วโปรเจกต์ที่ผมนำมาเสนอละครับ
กรณีที่สาม — คุยกับพาร์ทเนอร์ผู้มีคอนเน็คชั่นมากมาย … ด้วยความหวังว่าจะมีโอกาสต่อยอดธุรกิจด้วยกัน … เรากลับได้โจทย์แปลกๆกลับมาว่า “หนูมีโปรดักท์ตัวนี้อยู่ ฝากขายด้วยได้มั้ย?”
บางครั้งก็ดีเพราะเราอาจจะมีโอกาสได้เชื่อมโยงสินค้าจากสองบริษัทเข้าด้วยกัน แต่อีกหลายครั้งก็แย่จนเกินบรรยายเพราะเราจะเดินออกจากห้องประชุมด้วยความรู้สึกที่ว่า … เอิ่มน้องคะ พี่ขายข้าวสารแต่น้องจะให้พี่ช่วยขายเพลารถยนต์เนี่ยะนะ
เหตุการณ์แบบนี้เรียกว่า “ลาก” … ลากเราไปจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งที่เราไม่เต็มใจ สังเกตให้ดีว่าบทสนทนาตอนนี้กำลังเป็นไปในบรรยากาศแบบไหน ระหว่างจูงมือกันไปหรือว่าลากกกก กันไป 😐