นั่นคือความเร็วและประสิทธิภาพ
ถ้าอยากได้ความเร็ว เราต้องเสียสละประสิทธิภาพ (ที่อาจจะหมายถึงคุณภาพ ความคุ้มค่า และความรอบคอบ)
ถ้าอยากได้ประสิทธิภาพ เราก็ต้องยอมวิ่งช้าลงหน่อย
คนหรือองค์กรที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงจะมีความสามารถในการสร้างสมดุลของสองเรื่องนี้ได้ดีกว่าคนอื่น
คำถามคือวันนี้ วันที่เรายังไม่สามารถสร้างความสมดุลได้อย่างเข้าที่เข้าทาง เราควรเลือกอะไร … ความเร็วหรือประสิทธิภาพ?
มันไม่มีคำตอบที่ตายตัว แต่ …
- ถ้าอยากเข้าตลาดต้องเลือกความเร็ว
- ถ้าอยากครองตลาดแบบเบ็ดเสร็จต้องเลือกประสิทธิภาพ
ที่ใครๆก็พูดกันว่าสตาร์ทอัพต้องเร็วเพราะเราหวังเข้าตลาด ยังไม่ใช่ครองตลาด ในช่วงแรกซึ่งอาจจะเป็นสองปีแรก เราต้องเน้นความเร็วเพราะสิ่งที่สตาร์ทอัพทำควรจะเป็นอะไรที่แปลกใหม่และตอบโจทย์แก้ปัญหาให้ลูกค้าด้วยแนวทางแบบใหม่ๆ การได้รับการตอบรับจากตลาดจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
ถ้าเราช้า หมายความว่าถ้าใช้เวลา 1 ปีทำโปรดักท์เวอร์ชั่นแรก … อันนี้ไม่น่าจะเวิร์ค สาเหตุอาจจะเป็นเพราะเราไม่มีทีมที่มีความพร้อมเพียงพอ เราขาดการวางแผนธุรกิจและเข้าตลาดที่ดี หรืออาจจะเป็นเพราะเราพยายามทำอะไรให้มีประสิทธิภาพมากเกินไป เช่น โปรดักท์ต้องดีมาก โปรดักท์ต้องพร้อมรองรับการขยายตัวของจำนวนลูกค้าในปริมาณมาก โปรดักท์ต้องมีโครงสร้างที่ดีเพื่อรองรับการเพิ่มฟีเจอร์ในอีกสามเวอร์ชั่นข้างหน้า
ประสิทธิภาพในช่วงต้นเหมือนจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด
มันจะกลายเป็นตัวถ่วงและเมื่อสตาร์ทอัพช้า สิ่งที่จะตามมาคือ
- คนอื่นเข้าตลาดได้ก่อน
- เงินทุนหมด
ถ้าช่วงแรกเราไม่เร็ว … เราจะไม่มีโอกาสไปถึงจุดที่เราได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อครองตลาด และเราจะต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้านอย่างรวดเร็วก่อนคนอื่นเลย
เร็วแบบลวกๆหรือสิ้นเปลืองบ้างก็ได้ … แค่ต้องเตือนตัวเองว่ามันถึงเวลาที่ต้องหยุดเพื่อคิดทำอะไรแบบมีประสิทธิภาพได้แล้ว