มองไปรอบห้องแล้วถามตัวเองว่า “ใครคือคนที่มีค่าตัวถูกที่สุด?”
ตอบให้ได้ทันทีว่า “ตัวเราเองนั่นแหละ”
มันไม่เกี่ยวกับตำแหน่งและลำดับชั้น ถ้าเป็นเรื่องงานไม่ว่าเราจะอยู่ที่จุดไหน มันไม่มีอะไรที่ต่ำต้อยเกินกว่าค่าตัวของเรา
- งานออกแบบเวปไซต์มันจิ๊บจ๊อย เราไม่ควรมาเสียเวลาเรื่องนี้
- งานการตลาดมันเรื่องของเด็กๆ เราไม่ควรมาเสียพลังงานเรื่องนี้
- งานทดสอบระบบมันซ้ำซากจำเจ เวลาของเรามีค่ามากกว่านั้นเยอะ
- งานตอบอีเมล์จากผู้ใช้มันน่าเบื่อ ปล่อยให้เป็นเรื่องของคนอื่นไปดีกว่า
ความคิดที่ว่าเรามีค่ามากกว่างานที่ทำนั้นเป็นความคิดที่ผิดพลาดอย่างยิ่ง มันเป็นความคิดที่สกัดกั้นการเรียนรู้และพัฒนา มันเป็นความคิดที่ขัดขวางการลงมือทำ มันเป็นความคิดที่ปลูกฝังความสุรุ่ยสุร่าย … และมันอันตราย
ในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ เราไม่มีใคร เราไม่มีเงินทุน งานทุกอย่างที่จำเป็นต้องถูกจัดการด้วยทีมงานที่เรามี
- ถ้าต้องการเวปไซต์ก็ต้องมีคนทำเวปไซต์ — ใครล่ะ?
- ถ้าต้องเริ่มขายของงานการตลาดต้องมา — ใครล่ะ?
- ถ้าคนอื่นไม่ว่างพอที่จะทดสอบระบบ — ใครล่ะ?
- ถ้าคนที่เหลือติดงานอื่นแต่ลูกค้าก็รอคำตอบจากเราอยู่ — ใครล่ะ?
เราเลือกได้ว่าจะสำคัญตัวเองผิดว่าเรามีค่ามากมาย เวลาของเราเป็นเงินเป็นทอง แล้วจ้างคนอื่นที่เราคิดว่าราคาถูกกว่าเราเข้ามาทำงานที่เราคิดว่าต่ำต้อยไร้ค่าพวกนี้
เราเลือกได้ว่าจะสำคัญตัวเองผิดว่าเรามีค่ามากมาย เวลาของเราเป็นเงินเป็นทอง แล้วโยนงานพวกนี้ไปให้ทีมที่ยุ่งวุ่นวายอยู่แล้วรับภาระเพิ่มเข้าไปอีก
หรือเราเลือกที่จะคิดว่าเราคือคนที่ราคาถูกที่สุด เราคือคนที่มีงานทำน้อยที่สุดอยู่แล้ว เราไม่ใช่คนที่ดีแต่ปากพูด แล้วลงมือจัดการเรื่องพวกนั้นด้วยตัวเองให้ดีที่สุด
และต่อให้ธุรกิจเราขยายตัวเติบโตขึ้นไปอย่างไร … แนวคิดนี้ก็ยังคงไม่ล้าสมัย เมื่อพูดถึงงานที่เป็นงานจริงๆเราคือคนที่ค่าตัวถูกที่สุดเสมอ ไม่ว่าจะอย่างไรจำไว้ว่าเรามีเวลาเพียงพอในการทำงานให้ดีได้ตราบใดที่เรามีโฟกัส
ไม่จำเป็นว่าเมื่อเป็นผู้จัดการแล้วเราจะทำโค๊ดรีวิวไม่ได้ ไม่จำเป็นว่าเมื่อเราเป็นผู้อำนวยการแล้วจะลงมือทดสอบระบบเองไม่ได้ ไม่จำเป็นว่าเมื่อเราเป็นหัวหน้าทีมธุรกิจแล้วเราจะลงมาคิดและออกแบบแผนการตลาดเองไม่ได้ และไม่จำเป็นว่าถ้าเราเป็นเจ้าของบริษัทแล้วเราจะออกแบบซอฟต์แวร์หรือเขียนโค๊ดเองไม่ได้
ไม่มีงานไหนต่ำต้อยเกินไปกว่าค่าตัวของเรา … จำไว้