“ผมอยากทำในสิ่งที่ผมมีแพชชั่นครับ”
ฟังดูเผินๆผิวๆก็ไม่มีอะไรผิดกับประโยคนี้ ถ้าเราเชื่อว่าแพชชั่นคือแรงขับสำคัญที่จะทำให้เราสร้างผลงานที่ดีด้วยการทุ่มเททั้งกายและใจ
มันติดนิดเดียวที่ … แพชชั่นไม่เคยมาก่อนหน้าการลงมือทำ
ผมมีแพชชั่นในหลายเรื่องแต่ไม่มีเรื่องไหนเลยที่ผมรู้สึกดีกับมันก่อนที่ผมจะใช้เวลาอยู่กับมันสักพักก่อน
- ผมชอบออกแบบแอพ เพราะผมเริ่มต้นด้วยการออกแบบแอพและทำสิ่งนี้มานานกว่า 4 ปีแล้ว — จนกลายเป็นแพชชั่น
- ผมชอบอ่านหนังสือ เพราะผมเริ่มต้นด้วยการ … อ่านหนังสือและบทความต่างๆมาเกิน 10 ปี — นี่ก็แพชชั่น
- ผมชอบเขียน เพราะผมลองเขียน และเขียนเรื่อยๆมาครบ 10 ปีพอดี — แพชชั่นที่ผมทำทุกวัน
- ผมชอบถ่ายทอดความรู้ให้คนอื่นที่สนใจอยากฟัง เพราะผมลองทำมันเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วและยังติดใจมาถึงทุกวันนี้
ในมุมกลับกัน ผมเคยคิดว่าผมน่าจะมีแพชชั่นเรื่องการทำอาหารนะ เพราะผมชอบดูรายการอาหารและผมพอจะเข้าครัวเป็นอยู่บ้าง นั่นคือแพชชั่นที่คิดไปเอง แต่เมื่อได้รับการทดสอบแล้วความจริงก็ปรากฎ ผมไม่ชอบทำกับข้าวมากขนาดนั้น แพชชั่นนั้นเป็นของปลอม
แพชชั่นก่อนการลงมือทำนั้นไม่มีอยู่จริง
“ผมขอโอกาสได้ลองทำอะไรที่ผมพอจะทำได้ ผมจะพยายามอย่างดีที่สุด และถ้าผมสร้างผลงานดีๆออกมาได้ ผมก็จะมีแพชชั่นกับมันครับ” — นี่อาจจะเป็นประโยคที่เรามองหา เราขอโอกาสเพื่อสร้างแพชชั่น … ไม่ใช่ยึดติดกับแพชชั่นแล้วค่อยมองหาโอกาส