🥗 สลัดกับพิซซ่า

มิสเตอร์พอลเป็นคนรักสุขภาพ อาหารที่เขาเลือกรับประทานจะเป็นเมนูไขมันต่ำ แคลลอรี่น้อย กากใยสูง รวมทั้งมีโปรตีนในปริมาณพอเหมาะ เช่น สลัด สเต็กเนื้ออกไก่ ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ไข่ลวก และผักต้มจิ้มน้ำพริก แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนชอบกินเบเกอรี่มาก มันอดใจไม่ได้จริงๆที่ต้องแหกกฎหาช็อกโกแลต ลาวากับชีสเค้กกินเดือนละชิ้น

ซึ่งการกินขนมเดือนละครั้งไม่ได้ทำให้สุขภาพของมิสเตอร์พอลแย่ลง หรือระดับคลอเลสเตอรอลพุ่งกระฉูด

มิสเตอร์จอห์นเป็นคนตามใจปากกินไม่เลือก ชอบที่สุดกับของทอดของมัน เมนูโปรดของเขาคือ ข้าวเหนียวไก่ทอด ข้าวขาหมูติดมัน แฮมเบอร์เกอร์ และพิซซ่าขอบชีส มิสเตอร์จอห์นก็รู้อยู่แก่ใจนะว่าที่กินๆเข้าไปมันไม่ดีต่อสุขภาพ และด้วยความรู้สึกผิดเขาจึงพยายามทำดีให้ร่างกายบ้างด้วยการฝืนใจกินสลัดผักน้ำใสเดือนละสองมื้อ

ซึ่งการกินสลัดเดือนละสองมื้อไม่ได้ทำให้สุขภาพของมิสเตอร์จอห์นดีขึ้นในทันทีทันใด และระดับคลอเลสเตอรอลก็ไม่ได้ลงฮวบฮาบแต่อย่างไร

มิสเตอร์พอลเป็นคนรักสุขภาพจริงๆ เขาหาเวลาออกกำลังกายสัปดาห์ละสี่วัน เข้าฟิตเนส ว่ายน้ำ ตีแบด เตะฟุตบอล วิ่งจ๊อกกิ้ง หรือแอโรบิกแบบคาร์ดิโอ แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเค้ายุ่งมากมาย ทั้งเรื่องงาน เตรียมงานแต่งงานและตบแต่งเรือนหอทำให้เขาหาเวลาออกกำลังกายไม่ได้เลย

ซึ่งการงดออกกำลังกายหนึ่งสัปดาห์ไม่ได้ทำให้มิสเตอร์พอลอ้วนพลุ้ย พุงเผละ

มิสเตอร์จอห์นเป็นมนุษย์ที่เกลียดการออกแรง ออกกำลังกาย และคำว่ากีฬามาก เวลาว่างคือกิน นอน เล่นเน็ตและดูหนัง มันก็ไม่แปลกที่จะมีคางสามชั้น ห่วงยางรอบเอวและหาเสื้อผ้าใส่ยาก เขาอ้วนจนทุกคนเริ่มเตือนด้วยความเป็นห่วง มิสเตอร์จอห์นเองก็เริ่มรู้สึกว่าปล่อยไว้แบบนี้คงอายุสั้นแน่ๆ เขาจำเป็นต้องฝืนตัวเองให้ออกกำลังกายบ้างด้วยการว่ายน้ำและเดินเร็วสัปดาห์ละสามวัน เขาทำแบบนี้มาได้หนึ่งเดือนแล้ว

ซึ่งการออกกำลังกายหนึ่งเดือนไม่ได้ทำให้มิสเตอร์จอห์นมีหุ่นเฟิร์มขึ้น คางและห่วงยางสลายหายไปในพริบตา

กินอาหารสุขภาพมาตลอดจะสลับมากินอาหารไขมันสูงบ้างมันไม่ได้ทำให้สุขภาพเราแย่ลงในทันที ในทางกลับกันถ้าเรากินอาหารขยะมาทั้งชีวิต การฝืนใจกินสลัดติดกันสามวันก็ไม่ได้ช่วยให้เรามีสุขภาพดีขึ้นในทันควัน

การทำงานในออฟฟิศของเรา … ถ้าองค์กรของเรามีวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญของทำงานกันเป็นทีม ให้ความเคารพซึ่งกันและกัน สามัคคี เสียสละและเห็นแก่ประโยชน์ของส่วนรวม ความสัมพันธ์ของคนในองค์กรดีมีความรักใครกลมเกลียวกัน … การมีปัญหากระทบกระทั่งกันบ้างในเวลางานมันก็ไม่ได้ทำให้เราต้องแตกหักกันในทันทีเพราะพื้นฐานความสัมพันธ์นั้นยังแข็งแรงดีอยู่ — เปรียบได้การที่เรากินสลัดเป็นอาหารหลักแล้วจะขอแหกกฎมากินพิซซ่าซักวันก็ไม่เป็นอะไร 🍕

การทำงานในออฟฟิศของเรา … ถ้าองค์กรไม่สนใจในความสามัคคี รักใคร่กลมเกลียวของพนักงาน ปล่อยให้ออฟฟิศเป็นเหมือนบ่อปิรันย่าที่ทุกคนต้องแยกเขี้ยวใส่กันเพื่อเอาตัวรอด … การที่จัดปาร์ตี้ เอ้าติ้ง หรือกิจกรรมที่เรียกว่า Team Building ปีละครั้งแล้วหวังว่าพนักงานจะเกิดดวงตาเห็นธรรม ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้มาสนิทสนมรักใคร่กลมเกลียวกันนั้นเป็นความฝันลมๆแล้งๆ — เปรียบได้กับการที่เราปล่อยตัวให้อ้วนเผละเพราะไม่ออกกำลังกายมาเป็นปีแล้วหวังว่าการเริ่มต้นว่ายน้ำเดินเร็วแค่หนึ่งเดือนจะทำให้ทุกอย่างกลับมาดีเหมือนเดิม

นี่คือสาเหตุว่าทำไมกิจกรรม Team Building ต่างๆถึงล้มเหลวและไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ของพนักงานและประสิทธิภาพการทำงานขององค์กรดีขึ้น เพราะมันก็แค่การกินสลัดเดือนละหนึ่งจาน ทุกมื้อที่เหลือคือไก่ทอด เบอร์เกอร์ และพิซซ่าที่มีแต่ผลร้ายต่อสุขภาพ

นี่คือสาเหตที่ทำไมผมไม่เชื่อในกิจกรรม Team Building แบบนี้ ถ้าอยากทำ Team Building ที่ได้ผลจริงๆ เราต้องเปลี่ยนแนวคิดซะใหม่ด้วยการหาทางกินอาหารสุขภาพให้ได้ทุกมื้อและออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละห้าวัน ที่สำคัญคือต้องกินและทำที่ออฟฟิศ ปัญหาเรื่องงานต้องแก้ที่ทำงานไม่ใช่ตามโรงแรมหรือชายทะเล

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *