หนึ่งในคุณสมบัติที่แบ่งแยกคนที่มีโอกาสประสบความสำเร็จกับคนทั่วไปคือ “ความเชื่อมั่นในตัวเอง”
“Believe in yourself! Have faith in your abilities! Without a humble but reasonable confidence in your own powers, you cannot be successful or happy.” — Norman Vincent Peale, minister and author
“เชื่อมั่นในตัวเอง ศรัทธาในความสามารถของคุณ ถ้าปราศจากความเชื่อมั่นในพลังของตัวคุณเองอย่างถ่อมตนแต่มีเหตุผลแล้วหละก็คุณไม่สามารถประสบความสำเร็จหรือมีความสุขได้” — นอร์แมน วินเซ้นต์ พีลล์
มีเรื่องเล่าจากหนังสือชื่อ “คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก” ผู้เขียนเล่าว่า มีพนักงานคนนึงทำงานตำแหน่งเล็กๆในบริษัทขนาดกลาง (เข้าใจว่าประเทศสหรัฐอเมริกา) อาศัยอยู่ในห้องเช่าย่านคนจนชานเมือง แน่หละเขาไม่ใช่คนร่ำรวยอะไรออกจะลำบากนิดๆด้วยซ้ำ ตอนนี้เขาค่อนข้างเครียดกับสถานการณ์ของตัวเองมากทีเดียวเพราะภรรยาของเขาเพิ่งคลอดลูก สมาชิกใหม่มาพร้อมกับภาระที่มากขึ้นทั้งเขาและภรรยารู้ความจริงข้อนี้ดี ไหนจะเรื่องค่าใช้จ่ายแล้วบวกกับความกังวลกับสภาพแวดล้อมแย่ๆสำหรับลูกของทั้งสองคน
พนักงาน: “นี่เราจะปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้เรื่อยๆหรอ?” เขาเปิดอกกับภรรยา
ภรรยา: “ไม่แน่นอน ฉันไม่ต้องการแบบนี้” ภรรยาตอบทันทีแบบไม่ต้องคิด
พนักงาน: “เราต้องทำอะไรซักอย่างแล้วหละ … คุณอยากได้อะไร” พนักงานตั้งคำถามปลายเปิด
ภรรยา: “ฉันอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง มีสวนหน้าบ้านเล็กๆ อยากมีสภาพแวดล้อมดีๆให้ลูก แต่ฉันก็เข้าใจนะว่ามันยาก” ความฝันของภรรยาทำให้พนักงานนิ่งไปพักนึง
พนักงาน: “เอาซิ ผมก็อยากได้แบบนั้นเหมือนกัน ลองดูซักตั้ง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่มีความหวัง
เช้าวันรุ่งขึ้นพนักงานคนนี้ขอพบผู้จัดการของเขา เขาพูดถึงความต้องการของเขาอย่างตรงไปตรงมา
พนักงาน: “หัวหน้าครับ มีงานอื่นให้ผมทำอีกมั้ยครับ ผมต้องการรายได้เพิ่ม”
หัวหน้า: “อืม มันก็พอมีนะ ตอนนี้งานฝ่ายการตลาดเยอะมาก ทางนั้นกำลังอยากได้คนช่วยพอดีเลย ว่าแต่นายจะทำได้หรอ นายไม่มีประสบการณ์ด้านนี้เลยนะ” หัวหน้าอยากช่วยแต่ก็ไม่แน่ใจในเรื่องความสามารถของเขา
พนักงาน: “ผมมั่นใจว่าผมจะทำได้ครับ ผมพร้อมจะทำงานเกินเวลาเพื่อที่จะเรียนรู้งานให้เร็วที่สุด ผมเริ่มงานได้เมื่อไรครับ” ความมั่นใจจากเมื่อคืนที่คุยกับภรรยานั้นไม่ได้หายไป
พนักงานได้งานเพิ่มสมใจ แน่นอนเขาได้มีบ้านเป็นของตัวเอง เหนื่อยแต่คุ้มค่าเพราะไม่กี่เดือนต่อมาเขาได้เลื่อนตำแหน่งจากพนักงานธรรมดาเป็นผู้จัดการ ชีวิตการงานและครอบครัวของเขาลงตัวขึ้นมาก จบ …
เรื่องนี้บอกอะไรเราบ้าง ผมว่าก็เป็นอย่างที่ประโยคข้างบนนั่นแหละ “ถ้าเราไม่เชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง (อย่างมีเหตุผล) ก็เป็นเรื่องยากที่จะประสบความสำเร็จ” ที่พนักงานคนนี้กล้าที่จะลุกขึ้นมาทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ผมว่าเป็นเพราะเค้าเชื่อมั่นในตัวเองอย่างแรงกล้า อาจจะด้วยสถานการณ์ที่บีบบังคับหรือจะอะไรก็ตามแต่ความเชื่อมั่นในตัวเองคือสิ่งที่เป็นพื้นฐานสำคัญของความเปลี่ยนแปลง
มันคงจะดีถ้าเรามีความมั่นใจในตัวเองในระดับที่เหมาะสม จุดเริ่มต้นที่ดีน่าจะเป็นการพยายามที่จะไม่ดูถูกตัวเอง มันก็ต้องมีบ้างหละที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เรื่องหรือไม่น่าจะมีปัญญาทำนั่นทำนี่ได้ สำคัญที่ว่าอย่าปล่อยให้ความรู้สึกแบบนั้นอยู่กับเรานานจนเกินไป ต้องดึงตัวเองกลับมาให้เร็ว ทางหนึ่งที่ทำได้ก็ด้วยการคิดถึงในสิ่งที่เราทำได้ดี คิดถึงความสามารถที่เรามี คิดถึงความเป็นตัวตนที่เราเป็นจริงๆ นั่นคือความภูมิใจ … ความภูมิใจได้มาจากไหน? ผมคิดว่ามันได้มาจากการที่เรารู้จักตัวตนของเราเองและนั่นทำให้เรารู้ว่าเรามีความสามารถแค่ไหน
คำถามง่ายแต่ตอบยากมาก … “คุณคิดว่าคุณชอบอะไร ถนัดด้านไหน มีความสามารถอะไรที่โดดเด่น” ตอบยากมั้ย? ผมว่าถ้าใครตอบได้แบบเป๊ะๆนี่น่าอิจฉามากนะ ฮ่าๆ ผมอ่านหนังสืออีกเล่มหนึ่งเขาบอกว่า “คนส่วนใหญ่ไม่รู้หรอกว่าตัวเองเก่งด้านไหนชอบอะไร แต่ถ้าถามว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้เรื่องหรือไม่ชอบอะไรหละ … คำตอบจะพรั่งพรูออกมาเลย” ผมว่าจริงนะ ลองถามตัวเองดูก็ได้ การจะหาว่าตัวเองเก่งอะไรชอบอะไรเป็นเรื่องยาก(มาก)แต่ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ … แล้วทำยังไง
ไม่รู้ซิ ผมว่าเรื่องแบบนี้ต้องให้เวลาครับ ให้เวลากับตัวเองบ้าง วันหนึ่ง 24 ชั่วโมง เราพบเจอผู้คนมากมาย คุยกับคนนู้นคนนี้ก็ใช้เวลาไม่ใช่น้อย … ถามว่าเรามีเวลาคุยกับตัวเองบ้างมั้ย? การที่เราจะรู้จักใครซักคนเราต้องคุยต้องมีปฏิสัมพันธ์กับเขาระดับหนึ่ง กับตัวเองก็เหมือนกัน ถ้าอยากรู้จักตัวเองเราก็ต้องให้เวลากับตัวเอง คงกำหนดไม่ได้หรอกว่าวันนึงต้องกี่ชั่วโมงกี่นาที แต่ลองดูเถอะแล้วจะรู้ว่าเราก็มีอะไรดีเยอะแยะในตัว
ความเชื่อมั่นในตัวเองอาจจะไม่ใช่เครื่องการันตีว่าคุณจะประสบความสำเร็จ แต่ผมมั่นใจมากว่าคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตทุกคนมีความเชื่อมั่นในตัวเอง พวกเขามีได้ เราก็มีได้เช่นกัน