เมื่ออะไรไม่เป็นไปอย่างที่ใจหวัง สิ่งแรกที่ต้องโทษคือตัวเอง … ที่ไม่ระบุให้ชัดเจนว่า “ใจหวัง”
ไม่มีใครเข้าใจเราได้ดีกว่าตัวเราเอง ไม่มีใครรู้ความคาดหวังของเราถ้าเราไม่พูด ผมผิดหวัง (กับตัวเอง) เพราะเหตุนี้มาหลายต่อหลายครั้งแล้ว
ในขณะที่เราชี้แจงขอบเขตของงานอย่างคร่าวๆเพื่อหวังว่าสมาชิกในทีมจะมีพื้นที่ในการใช้จินตนาการของตัวเองเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผม บางครั้งมันได้ผล หลายครั้งมันไม่ได้ผล … แต่อย่างน้อยๆก็เชื่อได้ว่าน้องๆในทีมได้ฝึกฝนที่จะทำงานด้วยตัวเองและมีโอกาสได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์พอสมควร มันอาจจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว
การลงทุนด้วยคำว่า “อ่าว พี่ไม่ได้หมายความว่าแบบนี้” — ความผิดหวังและไม่ได้อย่างใจคิด
แต่กับคนนอก … มันอาจจะคิดสั้นเกินไปที่เรา (ผมเองนี่แหละ) ที่จะคุยคร่าวๆและคาดหวังว่าพวกเขาจะตีความได้อย่างที่ใจเรานึก
“ลองดูครับ ผมอยากได้ประมาณนี้แหละ” — มันเป็นการกำหนดขอบเขตของงานที่แย่มาก มันไม่ชัดเจน และมันก็เปิดโอกาสให้เกิดความผิดพลาดได้เป็น 100 ข้อ
“อ่าว ทำไมทำมาแบบนี้หละครับ ผมอยากได้แบบนี้ แบบนี้ แบบนี้ แบบนี้” — เรามาเห็นทีหลังว่ามันผิดทิศผิดทางและผิดสเปค
การเปิดช่องให้คนนอกคิดมันไม่มีประโยชน์อะไรกับเรามากนักในกรณีนี้ เพราะถ้าพวกเขาทำผิดมันก็จะผิดยาวๆและคนเสียหายคือเราคนเดียว มีแต่ผลลบไม่มีด้านบวกเลย
กลับมามองภาพตรงนี้อีกคร้ัง … ในจังหวะที่เราสาธยายยาวยืดว่า “แบบนี้ แบบนี้ แบบนี้สิ อย่าทำแบบนั้น และต้องรีบทำแบบนี้” — มันเหมือนเป็นการบ่นกับตัวเองว่าในเมื่อมีเวลาพูดพล่ามซะขนาดนี้ทำไมไม่เอาเวลาไปเขียนสเปคให้มันชัดเจนตั้งแต่แรก?
เออ ก็จริง ถ้ากำหนดมาชัดเจน ความผิดพลาดก็จะน้อยลง … มันเป็นอะไรที่ง่ายมากแต่ทำไมไม่ทำ?
เห้อ 👎