ในบางเวลาเราอยากทุ่มสุดตัว เราอยากไปให้สุดทาง เราอยากวัดดวง เราอยากพิสูจน์ให้รู้ไปเลยว่าใครแน่กว่าใคร … ดี ดีแล้วที่มีความมุ่งมั่นแบบนั้น 💪🏽
แต่ …ไม่ทุกครั้งที่กลยุทธ์ “ได้ทั้งหมดหรือไม่ได้อะไรเลย” นั้นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด การมองหาผลประโยชน์ร่วมกันของทุกฝ่ายต่างหากที่เป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า
ระหว่างทางที่เราทำโปรเจกต์หรือพัฒนาโปรดักท์สักตัวหนึ่ง มันจะมีเรื่องที่เป็นจุดชี้เป็นชี้ตายเกิดขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเรื่องทางเทคนิค เช่น ถ้าเราวิเคราะห์ข้อมูลชุดนี้ไม่ได้เราจบแน่ ถ้าเราการันตีความถูกต้องที่ 99.99% ไม่ได้งานนี้ล่มชัวร์ ถ้าเราหาฮาร์ดแวร์สเปคที่ลูกค้าต้องการไม่ได้ก็เตรียมเก็บกระเป๋ากลับบ้าน
ก็เข้าใจว่ามันสำคัญ … แต่ถ้าทำเช่นนั้นไม่ได้แล้วทุกอย่างต้องพังทลายลงจริงหรือ? ผมคิดว่าไม่ถึงขนาดนั้นหรอก มันมีทางเลือกทางออกอีกมากรอให้เราพิจารณาและประยุกต์ใช้
ถ้าเราวิเคราะห์ข้อมูลชุดนี้ไม่ได้ แต่เราทำส่วนอื่นที่เหลืออีก 90% ของรีไควเม้นต์ได้หละ? … โปรดักท์ตัวนี้ยังสร้างคุณค่ากับผู้ซื้อผู้ใช้อยู่มั้ย? ผมคิดว่าใช่นะ
ถ้าเราการันตีความถูกต้องที่ 99.99% ไม่ได้ภายในสัปดาห์หน้า แต่เราทำได้ที่ 97.95% หละ? … ซอฟต์แวร์ตัวนี้ยังช่วยแก้ปัญหาส่วนใหญ่ที่ผู้ใช้เจออยู่ทุกวันได้มั้ย? ผมคิดว่าได้นะ
ถ้าเราหาฮาร์ดแวร์สเปคนี้ไม่ได้ภายในเดือนหน้า แต่เราให้คำแนะนำว่าลูกค้าควรรอสักหน่อยและในระหว่างนั้นเราแบ่งทำงานในส่วนที่เป็นอิสระจากฮาร์ดแวร์ล่วงหน้าไปก่อนหละ? ผมคิดว่าเราทำได้นะ
ข้อจำกัดหรืออุปสรรคส่วนใหญ่ถึงแม้จะดูคอขาดบาดตายขนาดไหนก็ตามมันก็ยังมีช่องว่างเหลือไว้ให้ความยืดหยุ่นเสมอ … อยู่ที่ว่าเราตั้งใจจะมองหาและมองเห็นมันหรือไม่
ข้อจำกัดหรืออุปสรรคส่วนใหญ่ถึงแม้จะดูอันตรายร้ายแรงขนาดไหนก็ตามมันก็ยังมีช่องว่างเหลือไว้ให้ความคิดสร้างสรรค์เสมอ … ความคิดสร้างสรรค์ที่ผลักดันให้เกิดคุณค่าร่วมกันทั้งฝ่ายผู้ซื้อและฝ่ายผู้สร้าง
อย่าเพิ่มยอมแพ้อะไรง่ายๆ อย่าติดกับดัก “ทั้งหมดหรือไม่ได้อะไรเลย” ให้เร็วเกินไปนัก ✌🏼