เป็นโปรเจกต์ เมเนเจอร์ที่ดีขึ้นไม่ใช่เพราะ
- การวางแผนที่ตรงเป๊ะ
- การใช้อำนาจควบคุมสั่งการคนอื่น
- การตามแทรคงานแบบถึงลูกถึงคน
- ความสามารถในการหาคำตอบได้ทุกครั้ง
- การเซย์เยส
- การเข้าอบรมเรื่องพวกนี้ปีละสี่คอร์ส
- ความรู้ในกระบวนการบริหารโครงการหรือใบประกาศนียบัตรจากสถาบันไหนๆ
แต่เป็นโปรเจกต์ เมเนเจอร์ที่ดีขึ้นด้วย
- ความเข้าใจความต้องการของมนุษย์ ลูกค้า หัวหน้า ลูกน้อง ทีมงาน เพื่อนร่วมงาน พาร์ทเนอร์
- ความเข้าใจในบทบาทความเป็นผู้นำและผู้ตามในเวลาที่เหมาะสม
- ความเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของปัญหาของผู้ใช้และทางแก้ไขที่ทีมนำเสนอ
- ความเข้าใจเรื่องการออกแบบระบบเบื้องต้น ทั้งประสบการณ์ผู้ใช้และโครงสร้างสถาปัตยกรรมภายใน
- ความเข้าใจเรื่องบทบาทของเทคโนโลยีต่างๆที่เลือกให้ว่ามันส่งผลอย่างไรต่อความเป็นไปของงาน
- ความเข้าใจเบื้องต้นในเรื่องธุรกิจ เป้าหมาย แนวทาง กลยุทธ์ ระยะเวลา
- ความเข้าใจในคำว่า “คุณภาพ” ซึ่งไม่ใช่แค่การนับจำนวนบั๊กที่เจอ แต่มันคือการบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ การปูทางเพื่อการพัฒนาต่อเนื่องในอนาคต
- ความเข้าใจในหัวอกของคนที่มักจะถูกลืม … ทีมโอเปอเรชั่น ทีมซัพพอร์ต ทีมคัสตอมเมอร์เซอร์วิส ทีมมาร์เก็ตติ้ง ทีมเซลล์ อื่นๆ
- ความเข้าใจและความสามารถในการตั้งคำถาม ไม่ใช่เอาแต่หาคำตอบ
และเป็นโปรเจกต์ เมเนเจอร์ที่ดีที่สุดด้วย
- ความเข้าใจว่าเรามีหน้าที่สร้างและปลูกฝังวัฒนธรรมในการทำงานที่ดีและยั่งยืนให้ทีมงาน
- ความเข้าใจว่าความยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้เมื่อเราไม่ใช่คนที่ขาดไม่ได้ของทีม
- ความเข้าใจว่าความยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้เมื่อทีมงานสามารถทำงานทุกอย่างที่เราทำได้ด้วยตัวเองและทำได้ดีกว่าเราด้วย
- ความเข้าใจว่าโลกนี้มันหมุนไปอย่างไรและเรายืนหยัดเพื่ออะไร
ขั้นบันไดเริ่มต้นจากเล็กไปใหญ่ จากง่ายไปยาก … ถ้าเชื่อเหมือนกัน ถามตัวเองดูว่าวันนี้เราอยู่ ณ จุดไหน? มุมมองต่อโลกที่เปลี่ยนไปจะเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาตัวเองไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่แค่ความรู้และประสบการณ์ที่จะเพิ่มพูนขึ้น แต่ความสนุกและความรู้สึกว่าตัวมีคุณค่าจะวิ่งตามมาติดๆเช่นกัน
เป็นโปรเจกต์ เมเนเจอร์ที่ดีขึ้นด้วยแนวคิด ไม่ใช่แค่ความรู้และความลุ่มหลงในอำนาจ