จุดเด่นของเอ็มอาร์ทีและบีทีเอสไม่ได้อยู่ที่ความเร็วแต่อยู่ที่มันเป็นการเดินทางที่สามารถคาดเดาเวลาได้ใกล้เคียงที่สุด
ด้วยเงื่อนไขในฝัน … ขับรถไปเอง นั่งรถเมล์ แท็กซี่ มอเตอร์ไซค์ รถตู้ อาจจะเร็วกว่า
- ถนนโล่ง
- ไม่เจออุบัติเหตุระหว่างทาง
- รอรถเมล์ไม่นาน
- ไม่เจอแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร
- ไม่ต้องต่อคิวขึ้นรถตู้ยาวเฟื้อย
ถ้าจะได้แบบนั้นมันต้องมีเรื่องโชคและดวงเข้ามาข้องบ้าง … และนั่นคือปัจจัยที่ทำให้เราคาดเดาเวลาในการเดินทางผิดพลาด
วัดกันระหว่าง ความเร็ว (Fast) กับ การคาดเดาได้ (Predictability) ณ จุดนั้นเราเลือกอะไร ด้วยสถานการณ์แบบนั้นการเดินทางวิธีไหนน่าจะดีที่สุดสำหรับเรา
ไม่จำเป็นว่าความเร็วจะเป็นฝ่ายชนะเสมอไปถ้าการผิดนัดเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ … ไม่ใช่ว่าการคาดเดาได้จะดีกว่าเสมอไปถ้าเรามั่นใจมากว่าเราเผื่อเวลาไว้มากเพียงพอ
หลายครั้งตัวเลือกที่ดีที่สุดของเราคือการผสมผสานจุดเด่นจากทั้งสองตัวเลือกเข้าด้วยกันเพื่อสร้างแผนการเดินทางที่เร็วขึ้นและยังคาดเดาเวลาได้อย่างมั่นใจ
นั่นคือสิ่งที่ทีมซอฟต์แวร์ต้องเรียนรู้
การทำงานให้เร็วไม่ยาก ลงแรงอยู่ยาวหามรุ่งหามค่ำ งานเสร็จเร็ว … การทำงานด้วยความเร็วที่คาดเดาได้ต่างหากที่ยากและไม่ค่อยมีใครพูดถึง
“ด้วยความเร็วปกติ เราทำงานได้กี่ชิ้นในหนึ่งเดือน?”
“ด้วยความเร็วปกติ เรารับงานซ้อนกันได้กี่โปรเจกต์?”
“ด้วยความเร็วปกติ ถ้าเพิ่มคนเข้ามาอีกหนึ่งคนจะช่วยให้งานเสร็จเร็วขึ้นมั้ย?”
เมื่อพูดถึงการวางแผน สิ่งที่จำเป็นไม่ใช่ความเร็วแต่เป็นการคาดเดาได้ 🎯