แต่ไหนแต่ไรมา … ผมเป็นคนที่มีความคิดเห็นกับเกือบทุกเรื่องที่เกี่ยวกับงาน ทีม ธุรกิจความเป็นไป (เกือบ)ทุกคำถามในห้องประชุม (เกือบ)ทุกแบบฝึกหัดที่ต้องทำร่วมกันเป็นกลุ่ม … ผมต้องขอมีส่วนร่วมซักหน่อยก็ยังดี
มันอาจจะเป็นเพราะสัญชาตญาณ มันอาจจะเป็นเพราะผมเป็นผู้ตามที่แย่ มันอาจจะเป็นเพราะความกลัวว่าจะต้องยอมรับการตัดสินใจในเงื่อนไขที่ผมไม่เห็นด้วย หรือมันอาจจะเป็นเพราะความเบื่อหน่ายที่ต้องรอให้มีใครสักคนออกความคิดเห็นเป็นคนแรก
ผมจึงห้ามใจไม่ค่อยอยู่ที่ต้องเปิดปากพูด (จะมองว่านิสัยไม่ดีได้มั้ย? 🙊)
แต่ก็นั่นแหละครับ สิ่งที่ผมสังเกตเห็นมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ถ้าไม่มีใครพูดไม่มีใครคิดไม่มีใครทำ … ความก้าวหน้าจะเป็นศูนย์
แต่ถ้ามีใครออกเสียงมาแม้แต่คนเดียว … ความเคลื่อนไหวจะเกิดขึ้น บรรยากาศจะเปลี่ยนไป (ไม่รับประกันว่าในทางที่ดีหรือเลว)
- การนำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาบางอย่างในห้องประชุม
- การเสนอตัวทำงานชิ้นที่ยากที่สุดให้กับทีมหรือกลุ่มของตัวเอง
- การรับหน้าที่เป็นพรีเซนเตอร์แบบเดี่ยวๆหน้าชั้นเรียน
ผมชอบอะไรที่มันมีชีวิตชีวาแบบนี้ และผมก็ชอบที่จะมีส่วนรับรู้กับเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นและกำลังจะเกิดขึ้น
ผมชอบจะเป็นผู้นำมากกว่าผู้ตาม และผมรู้ว่าร้อยละ 70 ของคนในห้องประชุมคนในทีมหรือคนในกลุ่มเป็นคนที่เงียบและไม่ค่อยแสดงออก … นี่เป็นโอกาสอันดีที่ผมจะได้ค่อยๆคลืบคลานเข้าไปยึดตำแหน่งหัวหน้าคณะทำงานในเรื่องนั้นๆอย่างเนียนๆ
ถ้าอยากเป็นผู้นำ … เริ่มต้นได้ด้วยการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวต่อสาธารณชน เริ่มต้นด้วยการรับหน้าที่ที่คนอื่นไม่อยากหรือไม่กล้าทำ
ผมเป็นคนแบบนี้โดยธรรมชาติมาโดยตลอด มันกลายเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้ผมกลายเป็นคนที่ดีขึ้น (ในเวอร์ชั่นของผม) ทีละนิด … เพราะเมื่อพูดแล้วผมต้องรับผิดชอบ เมื่อผมรับอาสาแล้วผมต้องทำตามหน้าที่
งานหนัก งานเหนื่อย งานยากกว่าคนทั่วไปที่เลือกจะไม่พูด … แต่โอกาสการพัฒนาตัวเองก็มากกว่าเช่นกัน