บางครั้ง (หรือหลายครั้ง) เราก็ตัดสินใจว่ามันไม่คุ้มค่าที่จะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ
- การถกเถียงตบตีกันในห้องประชุมก่อนรีลีส
- การต้องทำงานดึกดื่นเที่ยงคืนเพื่อจัดการปัญหาบนโปรดักชั่น
- การเสียเวลาและแรงงานทำฟีเจอร์ที่ไม่มีผู้ใช้คนไหนอยากได้
- การทำผิดแผนเพราะการสื่อสารที่ผิดพลาดกันเป็นทอดๆ
- การเสียเวลายาวนานในห้องประชุมเพราะไม่มีใครเตรียมตัวและเตรียมการกันมาก่อน
- การปัดความรับผิดชอบกันไปมาว่านี่คือบั๊กหรือไม่ และใครต้องเป็นคนแก้
สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้คือเรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและยาวนาน จนกลายเป็นความชินชา
การทะเลาะกัน, การทำงานดึก, การปัดความรับผิดชอบ, การไม่เตรียมการ, การปล่อยปละละเลย, และการไม่พยายามเข้าใจซึ่งกันและกัน
มันเป็นเรื่องไม่ปกติที่กลายเป็นความปกติไปแล้ว … ทุกคนรู้และพร้อมและเต็มใจที่จะเข้าไปอยู่ในห้องประชุมที่มีแต่การถกเถียงและทะเลาะกัน
นั่นแหละ เพราะทุกคนตัดสินใจร่วมกันแบบเงียบๆว่าความพยายามที่จะไม่ทะเลาะกันนั้นไม่คุ้มค่าที่จะทำ ทุกคนมองเห็นร่วมกันว่า “การเปลี่ยนแปลงนั้นเจ็บปวดกว่าการจมอยู่กับปัญหา” เพราะการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุต้องการการเปลี่ยนแปลงเสมอและหลายครั้งมันจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่โตซะด้วย ☄️
การทะเลาะกันเกิดในห้องประชุมกับเวลาแค่ 1 ชั่วโมง … แต่การจะทำให้ไม่ทะเลาะกันต้องเริ่มต้นตั้งแต่นอกห้องประชุมและทำอย่างต่อเนื่องทุกวันทุกนาที
มันไม่คุ้มกับการลงทุนใช่มั้ยหละ? เราถึงได้ยอมทนอยู่กับปัญหาเดิมๆเหมือนอย่างทุกวันนี้ 😐