แน่นอน … กระบวนการที่เชื่องช้าและเรื่องมากส่งผลกระทบโดยตรงต่อการทำงานทุกอย่างรวมถึงงานในโปรเจกต์ด้วย
- สโคปที่ปิดไม่ลง 🏗
- งบประมาณที่ยังไม่อนุมัติ 💰
- การต่อรองราคาที่ยืดยาว ✋🏼
- หนังสือสัญญาที่ยังไม่ได้รับการลงนาม ✒️
ผลเสียที่เห็นได้ชัดคือดีเลย์ … งานเสร็จช้าลง
ผลเสียที่เห็นได้ชัดคือเสียโอกาส … คู่แข่งคาบเนื้อก้อนใหญ่ไปรับประทาน
ผลเสียที่เห็นได้ชัดคือความยุ่งยากในการบริหารทรัพยากร … สลับคน สลับงาน สลับสมอง และสลับเงินทุน
ไม่ๆ … สามเรื่องนั้นยังไม่ใช่ผลเสียที่ร้ายแรงที่สุดที่เกิดจากกระบวนการที่ล้าช้า
ผลเสียที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงคือ
การหมดอารมณ์ทำงานของคนในทีม
เริ่มต้นด้วยความตื่นเต้นด้วยแรงกระหายอยากทำอยากลุยอยากเห็นผลลัพธ์ … หนึ่งเดือนก็แล้ว สามเดือนก็แล้ว … กับการรับรู้เรื่องที่ไร้สาระ กับการต้องนั่งลุ้นว่าเมื่อไรกระบวนการที่ล้าช้าเหล่านั้นจะจบสิ้นลงซะที
หกเดือนก็แล้ว … พอกันที ช่างหัวมัน ใครจะอะไรก็ตามสะดวกเลย ไม่อยากทำแล้ว ไม่มีแรงจูงใจและแรงปรารถนาที่จะทุ่มเทกับสิ่งนี้ต่อไปแล้ว … ไอ ด้อนท์ แคร์
อย่าประเมินผลเสียข้อนี้ต่ำเกินไป อย่าคิดว่าโมเมนตัมของทีมไม่ใช่เรื่องสำคัญ จริงๆแล้วมันคือทุกสิ่งทุกอย่างเลยก็ว่าได้ มันสร้างโฟกัส มันสร้างเป้าหมาย มันเร่งเร้าความกระหายให้มากขึ้นเมื่อได้ลงมือทำจริง
ไม่ๆ คุณภาพของงานไม่ใช่เรื่องไกลตัว ไม่ใช่เรื่องสัญลักษณ์ ไม่ใช่เรื่องของคำสั่ง เดดไลน์ เรื่องเงิน หรือความก้าวหน้าในตำแหน่งการงาน
คุณภาพของงานเกิดจากคน … และคนที่มีความใส่ใจ มีโฟกัส มีแพสชั่นคือคนที่จะสร้างงานที่ดีมีคุณภาพกว่าคนที่หมดใจไปแล้ว
ดังนั้น … ถ้าเลือกได้ ถ้าเลือกจะทำแล้วก็ทำเลย … ไม่งั้นก็อย่าแม้แต่จะคิดที่จะเริ่ม ช้าๆมันเสียอารมณ์ 😤